• Facebook
• Twitter
• Line

Sendai อยู่ที่ไหน ?

เซนได (Sendai) เป็นเมืองที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง โตเกียว และ เขตภูมิภาคของเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เมืองเซนได นี้อยู่ในเขตของจังหวัด มิยางิ (Miyagi) ของภูมิภาค โทโฮคุ (Tohoku) ภูมิภาคที่เหมาะแก่การชมซากุระมากที่สุด ภูมิภาคนี้มีแหล่งท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย ที่สำคัญตอนนี้ การบินไทย ได้เปิด เส้นทางบินตรง กรุงเทพฯ – เซนได ในราคาหมื่นต้น ๆ คุ้มค่ามาก ๆ เมืองเซนไดนี้ยังเป็นเมืองที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มากเพราะเป็นเขตเมืองแห่งเกษตรกรรม แหล่งปลูกข้าวขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยมี มุสึบิมารุ (Musubimaru) นักรบข้าวปั้น มาสคอตสุดน่ารักน่ากินเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองเซนไดแห่งนี้

 

เขตภูมิภาคโทโฮคุ

จากรูปภาพจะเห็นได้ว่า เราสามารถเดินทางไปทั้ง โตเกียว หรือ ฮอกไกโด ก็ง่าย  มีรถไฟเชื่อมต่อหลายจังหวัด ที่สำคัญมีแหล่งท่องเที่ยวเยอะมากสำหรับสายธรรมชาติและสายเที่ยววัด

การเดินทาง

เครื่องบิน

การเดินทางสู่จังหวัดเซนได (Sendai)

เที่ยวบินของการบินไทย

ตารางเที่ยวบิน

• เที่ยวบิน TG 626 ทำการบินทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และเสาร์ ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 23.50 น. เดินทางถึง เซนได เวลา 07.30 น.ของวันรุ่งขึ้น (เวลาท้องถิ่น)

• เที่ยวบิน TG 627 ทำการบินทุกวันพุธ ศุกร์ และอาทิตย์ ออกเดินทางจากเซนได เวลา 11.15 น. (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึงกรุงเทพฯ เวลา 16.05 น.

เส้นทางนี้ใช้เครื่อง Boeing 777-200

#ทางไปจองตั๋วการบินไทย >>>  https://www.thaiairways.com

รถไฟ

สามารถใช้ JR EAST PASS (Tohoku Area) บัตรเจอาร์อีสพาส โทโฮคุ ใช้สำหรับเดินทางที่ Aomori, Sendai และ Nikko เป็นหนึ่งในบัตรที่ใช้แทน JR EAST PASS แบบเดิม โดยแบบใหม่นั้นได้แบ่งเป็น 2 โซน นั้นก็คือ Tohoku Area และ Nagano, Niigata Area ซึ่งสามารถนั่งรถไฟสาย JR East train ได้ทั้งหมดได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว โดยเริ่มนั่งได้ตั้งแต่สนามบินนาริตะและฮาเนดะ นอกจากนี้ยังสามารถ นั่งรถไฟสายท้องถิ่นบางขบวนที่ไม่ใช่รถไฟ JR ได้อีกด้วย เช่น บริเวณ Izu และ Nikko

ราคาของ JR EAST PASS (Tohoku Area)

การใช้งาน

หลังจากซื้อบัตรแล้ว บัตรจะมีอายุ 14 วันนับจากวันที่ซื้อ หรือวันที่นำบัตรไปแลกเปลี่ยนเป็น Pass ตัวจริงที่ญี่ปุ่น ซึ่งสามารถเลือกเดินทางได้ 5 วัน (ไม่จำเป็นต้องต่อเนื่องกัน) ซึ่งสามารถใช้ขึ้นรถไฟแบบ Local , Limited Express และ Express ทั่วไป รวมไปถึง รถไฟด่วนชิงคันเซน ตามประเภทของรถไฟสายต่าง ๆ ดังนี้

• JR East Lines (including BRT*)
• Izu Kyuko Line
• Aoimori Railway
• Iwate Galaxy Railway (IGR)
• Tokyo Monorail
• Sendai Airport Transit
• รถไฟแบบ Limited Express ที่วิ่งระหว่าง JR East lines และ Tobu Railway lines เช่น Nikko, SPACIA Nikko, Kinugawa, และ SPACIA Kinugawa.
• รถไฟแบบ Local และ Rapid trains ที่วิ่งระหว่าง Shimo-imaichi และ Tobu-nikko/Kinugawa-onsen รวมถึงรถไฟที่วิ่งระหว่าง Kurihashi และ Shimo-imaichi Stations

ข้อจำกัดในการใช้งาน

• สามารถใช้ขึ้นรถไฟสาย Tobu Railway ได้เมื่อต้นทางหรือปลายทางเป็นสถานี JR เท่านั้น
• ไม่สามารถใช้ขึ้นรถไฟด่วนชิงคันเซนโทไคโดะ (Tokaido Shinkansen) ได้
• สถานี GALA Yuzawa Station เปิดเฉพาะในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น
• ไม่สามารถใช้ขึ้นรถ JR Bus ได้

สถานที่ท่องเที่ยวที่ผ่าน

• Hirosaki Park
• Omagari
• Kitakami-Tenshochi
• Yamadera
• Zao
• Ouchijuku
• Nikko
• Tokyo
• อื่นๆ

แหล่งท่องเที่ยวเซนได

1. เซนได ไดแคนนอน (SENDAI DAIKANNON)

รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ที่มีความสูงถึง 100 เมตร เป็นประติมากรรมสถานที่มีขนาดสูงเป็นอันดับ 5 ของโลก อ้างอิงจากข้อมูลในปี 2561 ภายในองค์เจ้าแม่กวนอิมมีจำนวน 12 ชั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นลิฟต์และเดินลงมาชมพระพุทธรูปที่จัดแสดงในแต่ละชั้นได้  รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมในเมือง Sendai ถูกสร้างขึ้นในปี 1991 ตั้้งอยู่ในวัด Daikanmitsuji สำหรับคนญี่ปุ่น จะใช้คำแทนเจ้าแม่กวนอิมว่า Nyoirin Kannon (如意輪 観音)  โดยค่าเข้าชมจะอยู่ที่ 500 เยน หรือประมาณ 150 บาท

การเดินทาง : รถเมล์ สาย 910 หรือ 815 จากหน้าสถานีเซนได ป้ายหมายเลข 14 ลงที่ป้าย Sendai Daikannon Mae (ใช้เวลาประมาณ 35 นาที)
Google Map : 38.300636,140.823597

ข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับประติมากรรมสถานที่มีขนาดสูงที่สุดในโลก : Wikipedia

2. หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกแห่งซาโอะ (Zao Fox Village)

หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกแห่งซาโอะ “คิ-สึ-เนะ มู-ระ [Kitsune Mura]” หนึ่งในสถานที่ยอดฮิตในแถบเซนไดแห่งนี้ ที่จะได้มาสัมผัสความน่ารักของสุนัขจิ้งจอกตัวเป็น ๆ สุนัขจิ้งจอกที่นี่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมาก แถมยัง ขี้อ้อน น่ารัก น่าเอ็นดู มีบริการอาหารสำหรับสุนัขจิ้งจอกที่นี่อีกด้วย ! ที่สำคัญสุนัขจิ้งจอกที่นี่ฉลาดและโซคิ้ววววววมาก ตอนที่ยืนรอให้อาหารเหล่าสุนัขจิ้งจอกก็จะมารวมตัวกันส่งสายตาอ้อนให้โยนอาหารให้ บางตัวจะมานั่งพับเพียบรอเลยก็มี

ที่หมู่บ้านนี้แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซน Outdoor ของสุนัขจิ้งจอกและ โซนสัตว์ที่อยู่ในกรง มีทั้ง แพะ แกะ กระต่าย ม้า และสุนัขจิ้งจอก  ที่หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกแห่งซาโอะ นี้ มีจิ้งจอกที่สามารถสัมผัส จับ ลูบ ได้ และ ไม่ได้ อยู่ด้วย โดยจะต้องอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ ถึงแม้สุนัขจิ้งจอกจะไม่มีโซ่ล่าม เดินเข้ามาหา แต่ถ้าเจ้าหน้าที่บอกว่าห้ามจับ ก็ไม่สามารถจับได้

การเดินทาง : Kawarago-11-3 Fukuokayatsumiya Shiroishi-shi, Miyagi-ken 989-0733
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Tohoku Line ลงที่สถานี Shiroishi แล้วต่อรถได้ 2 วิธี
1. นั่งแท็กซี่อีกประมาณ 22 นาที ราคาประมาณ 4,000 เยน ค่าแท็กซี่ 1.5 กิโลเมตรแรกนั้น ราคาอยู่ที่ 670 เยน และทุกๆ 1 กิโลเมตรถัดไป จะเพิ่มทีละ 90 เยน ระยะทางจากสถานีไปยังหหมู่บ้านจิ้งจอก ประมาณ 15 กิโลเมตร
2. จากสถานี Shiroishi ขึ้น Castle Kun Bus ค่ารถ 200 เยน รถบัสจะวิ่งเส้น สถานีชิโรอิชิ – เขื่อนคาวาราโกะ (Kawarago Dam) ***มีเฉพาะวันอังคารและก็ศุกร์*** ออกจากสถานี 2 รอบ/1วัน ควรออกเดินทาง ออกจากสถานีชิโรอิชิ 7:58 น. จะมีป้าย Fox Village อยู่ พนักงานที่ขับรถจะแจ้งทันทีพอใกล้ถึง ขากลับไปรอที่เขื่อนคาวาราโกะตอน 14:32 น. (เดิน 14 นาที) หรือถามคนขับว่าจะมารับได้หรือเปล่า ประมาณกี่โมง

 

Google Map : 38.0408293,140.5303604

เบอร์โทร : 0224-24-8812
เว็บไซต์ : Zao Fox Village

เวลาเปิดทำการ :
16 มีนาคม – 30 พฤศจิกายน เปิด 9:00 – 17:00 น. (เข้าก่อน 16:30 น.)
1 ธันวาคม – 15 มีนาคม เปิด 9:00 – 16:00 น. (เข้าก่อน 15:30 น.)
(ช่วงหน้าหนาวจะปิด 16:00 น. เพราะมืดเร็ว)
*ปกติหยุดทุกวันพุธ ยกเว้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ สิงหาคม

ค่าเข้าชม :
ผู้ใหญ่ (อายุ 13 ปีขึ้นไป) 1,000 เยน
เด็ก (ต่ำกว่า 12 ปี) ไม่เสียค่าเข้าชม
ค่าอาหารสัตว์ 100 เยนต่อถุง

3. แหล่งช้อปปิ้ง @Clis Road เมืองเซนได (Sendai) 

แหล่งช้อปปิ้ง และ ร้านอาหารในเซนได เพียงแค่ 6 นาที จากสถานี เซนได หรือ สามารถมาจาก สถานี อาโอบะ โดริ ก็ได้ครับ

ร้านค้าในนี้ แบ่งออกเป็น 6 Block ซึ่งแต่ละ Block มีร้านค้ากว่า 139 ร้าน !! สามารถดูร้านค้าได้จากที่ เวปอย่างเป็นทางการของ Clis Road แห่งนี้ https://www.clisroad.jp/map/ ร้านค้าแนะนำ ร้านเสื้อผ้า Youfuku , Aoyama , Eddie Bauer และ GAP ร้านเครื่องดื่ม Starbucks , San Marc และ Dotour หรือ แหล่งร้านค้าช้อปปิ้งทั่วไป เช่น ABC-Mart หรือ Adidas ก็มีให้เดินกันได้ทั้งวันแน่นอน

ไฮไลท์แนะนำ “คาเฟ่นกฮูกฟุคุโระ” (Fukuro Café) ตั้งอยู่ตึกที่อยู่หลังร้าน Gucci มีค่าเข้า 1,200 เยน ซึ่งราคานี้รวมกับค่าเครื่องดื่มแบบไม่อั้น มีนกฮูกที่ถูกฝึกจนเชื่องอยู่หลากหลายสายพันธุ์ ให้เราได้ชมระหว่างทานเครื่องดื่ม

ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9:00 – 22:00 น.
วันปิดทำการ : ไม่มีวันหยุด (หมายเหตู : ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละร้านค้า)

วิธีการเดินทาง
– จากสถานีรถไฟใต้ดินโอบะ โดริ ไอชิบันโช (Aoba-dori Ichibancho Station) สาย Tozai Line เดินเท้าใช้เวลาประมาณ 7 นาที ระยะทาง 550 เมตร
– จากสถานีรถไฟเซ็นได (Sendai Station) สาย Senseki Line ทางออกด้านตะวันตก เดินเท้าใช้เวลาประมาณ 14 นาที ระยะทาง 1 กิโลเมตรหรือนั่งรถแท็กซี่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 นาที
– จากสถานีรถไฟใต้ดิน (Aobayama Station) สาย Tozai Line เดินเท้าใช้เวลาประมาณ 54 นาที ระยะทาง 4.3 กิโลเมตร

Google Map : 38.261571,140.8742693

4. จุดชมซากุระที่ศาลเจ้า Shiogama Shrine

ขอบคุณรูปภาพจาก かがみ～ (Sonotoki)

ที่ศาลเจ้าชิโอกามะ แห่งนี้ถือเป็นจุดหลักของการมาชมซากุระเซนไดแห่งนี้ คนท้องถิ่น ตลอดจน นักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ ต่างมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ ปูเสื่อ ชมซากุระ ที่เมืองเซนไดแห่งนี้ ด้วยบรรยากาศและความร่มรื่นของบริเวณศาลเจ้า ประกอบกับสถานที่อันเป็นมงคล และซากุระหลากหลายสายพันธุ์ที่ปลูกในบริเวณวัดนี้ ทำให้ศาลเจ้าชิโอกามิแห่งนี้เป็นจุดยอดนิยมมาก ๆ ทั้งชมซากุระ จัดพิธีแต่งงาน อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินทางไปที่ศาลเจ้าเพราะทางขึ้นศาลเจ้ามีบันไดขึ้นถึง 200 ขั้น

เวลาเปิด – ปิด : เปิดตลอดทั้งปี ไม่มีวันหยุด ช่วง เมษายน – กันยายน เปิด 8.30 – 17.00 น.
กุมภาพันธ์ มีนาคม ตุลาคม และพฤศจิกายน เปิด 8.30 – 16.30 น.
ธันวาคมและมกราคม เปิด 8.30 – 16.00 น.
ค่าเข้า : ฟรี ยกเว้น พิพิธภัณฑ์ Shrine Museum : ผู้ใหญ่ 200 เยน / นักเรียนมัธยม 150 เยน / นักเรียนประถม 80 เยน
การเดินทาง : ด้วยรถไฟ ใช้รถไฟ JR Tohoku Main Line ลงที่สถานี Shiogama Station แล้วนั่งแท็กซี่ต่อมาประมาณ 5 นาที /
โดยรถ Taxi / รถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีจาก Sanriku Expressway Rifunaka IC
โทร : 022-367-1611
ที่อยู่ : 1-1 อิจิโมริยามะ เมืองชิโอกามะ จังหวัดมิยากิ 985-8510
Google Map : 38.318951,141.012703

5. จุดชมซากุระที่สวนสาธารณะฟุนาโอกะ โจชิ FUNAOKA JOSHI KOEN

จุดชมซากุระยอดฮิตอีกจุดหนึ่ง และยังเป็นสถานที่จัดงาน “งานเทศกาลชมดอกซากุระ” (Sakura Matsuri) ในช่วงกลางเดือนเมษายน ไฮไลท์ของที่นี่คือ  “รถไฟชมซากุระ” ที่ จะพาคุณดื่มด่ำกับซากุระเซนไดตลอด 2 ข้างทาง Slope Car เป็นหนึ่งสิ่งที่ต้องนั่งเมื่อมาเยือนจุดชมซากุระเซนได้แห่งนี้ รถรางจะค่อย ๆ ขึ้นเขาผ่านต้นซากุระหลากหลายสายพันธุ์ตลอด 2 ข้างทาง กว่า 305 เมตร ดื่มดำเก็บความทรงจำด้วยภาพถ่ายได้หลากหลายมุม มาเที่ยวเซนได แห่งนี้ต้องห้ามพลาด ราคาค่าขึ้นรถไฟ Slope Car นี้อยู่ที่ เที่ยวละ 250 เยน เท่านั้น ! เมื่อขึ้นมาถึงด้านบน จะพบกับ Kannonn Square ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมที่สูงถึง 24 เมตร ให้สักการะขอพร บนเนินเขานี้ยังเป็นจุดชมวิวมุมสูงที่มองลงมาเห็นตัวเมืองและต้นซากุระที่ปลูกเรียงรายรอบแม่น้ำ Shiroishi และก่อนเดินทางกลับ อย่าลืมไปเดินเล่นริมแม่น้ำ Shiroishi ซึ่งก็เป็นสถานที่ชมซากุระด้วยเช่นกัน ทางเดินเลียบแม่น้ำจะอยู่ติดกับหลังสถานี JR Funaoka เลย

สวนสาธารณะ Funaoka Joshi Park เมืองเซนได (Sendai)
วันเวลา เปิด-ปิด : 9:00-16:00 น. (ช่วงเทศกาลคริสต์มาสจะมีการเปิดไฟยามค่ำคืน เปิดถึง 21:00 น.)
ค่ารถราง Slope Car : ผู้ใหญ่ เที่ยวละ 250 เยน (ไป-กลับ 500 เยน) , เด็ก เที่ยวละ 150 เยน (ไป-กลับ 300 เยน)
การเดินทาง : จากสถานี Sendai นั่งรถไฟ JR สาย Tohoku line มาลงที่สถานี JR Funaoka ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง ค่าโดยสาร 500 เยน
ข้อมูลอื่น ๆ  : www.skbk.or.jp
Google Map : 38.055,140.7588

6. จุดชมซากุระเซนได้ ที่ Cafe Le Roman

Cafe Le Roman นี้ตั้งอยู่ที่ สวนไซเกียวโมโดชิ โนะ มัตสึ เป็นคาเฟ่ที่ชิค ๆ คูล ๆ วิวสวยงาม ในคาเฟ่แห่งนี้มีขายทั้งกาแฟ หอมกรุ่น และเค้กรสชาติเลิศรส ยิ่งได้จิบกาแฟชมซากุระเซนไดที่แห่งนี้รับรองได้ขึ้นสวรรค์แน่นอน สถานที่แห่งนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานทำให้เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของเมืองมิยางิเป็นอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว

Saigyo-Modoshi-no-Matsu Park เป็นสวนสาธารณะใน Matsushima จังหวัดมิยางิ เป็น 1 ใน 3 สถานที่ที่งดงามที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ชื่อของอุทยานมาจากเรื่องราวเก่าแก่ของกวีญี่ปุ่นคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงและเป็นพระสอนศาสนาชื่อ Saigyo ได้เดินทางแสวงบุญไปทั่วภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศญี่ปุ่น เขาเดินทางจนมาถึง Matsushima และได้เข้าร่วมการสนทนาเรื่องราวของเซน เขากลับได้รับความพ่ายแพ้ในการอภิปรายครั้งนั้นทำให้เขาต้องเดินทางกลับ (คำอธิบายเพิ่มเติม: ชื่อของสวนสาธารณะ “Saigyo Modoshi” หมายถึง “Saigyo หันกลับ / กลับไป”)

การเดินทาง : สามารถเดินทาง โดยรถไฟสาธารณะ จาก JR Sengoku Line ลงที่สถานี Mutsushima Kaigan และจากสถานีใช้เวลาเดินอีก 30นาที ถ้าใช้แท็กซี่หรือรถยนต์ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ส่วนการเดินทางมาโดยรถยนต์ ใช้ทางด่วน Sanriku Expressway ลงที่ Mutsushima Kaigan IC  และขับรถต่ออีก 5 นาที

รายละเอียดเพิ่มเติม : ที่สวนสาธารณะมีที่จอดรถฟรีให้ 150 คัน (ช่วงเช้า ๆ และบ่ายคนจะค่อนข้างเยอะ แนะนำให้แพลนเวลาดี ๆ )

ที่อยู่ : 宮城県宮城郡松島町松島犬田 Inuta Matsushima Matsushima-machi, Miyagi-gun, Miyagi-ken 981-0213
โทรศัพท์ : 022-354-5708
ฤดูที่แนะนำ : ฤดูใบไม้ผลิ ( มีนาคม – พฤษภาคม ) ,  ฤดูร้อน ( มิถุนายน – สิงหาคม )ฤดูใบไม้ร่วง ( กันยายน – พฤศจิกายน )
เวปไซต์ : http://www.matsushima-kanko.com/miru/detail.php?id=137
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน
วันเวลาเปิดปิด Cafe Le Roman : เปิด 11.00 – 17.00
Google Map : 38.3666613,141.0538581

7. เซนไดทานาบาตะ (Sendai Tanabata Matsuri)

Thank you picture from : S.R.G – msucoo93

เทศกาลเซนไดทานาบาตะมัตสึริ (Sendai Tanabata Matsuri) หรือเทศกาลแห่งดาว ตามตำนานของจีนเชื่อว่าดาวสองดวง Altair และ Vega จะโคจรมาเจอกันในวันที่ 7 เดือน 7 นี้ แต่เนื่องจากความแตกต่างระหว่างปฏิทินจันทรคติและปฏิทินสุริยคติ เทศกาลทานาบาตะแบบที่เซนไดจึงจัดขึ้นในวันที่ 6 – 8 สิงหาคม แทนที่จะเป็น วันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี โดยในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 2 ล้านคน แห่มาชมเทศกาลสุดยิ่งใหญ่และอลังการที่จัดขึ้นติดต่อกัน 3 วัน 3 คืน

ในเมืองเซนได เทศกาลทานาบาตะจะจัดขึ้นในวันที่ 6 เดือนสิงหาคมเป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นหนึ่งในการเฉลิมฉลองเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น (ร่วมกับเทศกาลคันโตะมัตสึริ ที่เมืองอากิตะ และเทศกาลเนบูตะมัตสึริ ที่เมืองอาโอโมริ ซึ่งเป็น 3 เทศกาลที่ยิ่งใหญ่ประจำภูมิภาคโทโฮคุ) การเฉลิมฉลองจะเกิดขึ้นทั่วทั้งย่านดาวน์ทาวน์ในเซนได จุดเด่นของงานคือสายรุ้งหลากสีที่ประดับประดาไว้ตามศูนย์การค้าต่างๆ สายรุ้งแต่ละอันมีความยาวประมาณ 3 – 5 เมตร ซึ่งเป็นงานฝึมือจากร้านค้า โรงเรียน และกลุ่มประชาชน โดยใช้กระดาษวาชิ (Washi Paper) และไม้ไผ่ เทศกาลทะนะบะตะของเซ็นไดมีธรรมเนียมประดับประดาสิ่งของ 7 อย่างได้แก่ ริ้วผ้า กระดาษอธิษฐาน เครื่องแต่งกาย นกกระดาษ ถุงผ้า แห และตระกร้ากระดาษ

Washi Paper หนึ่งในกระดาษที่ได้รับสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นของวัฒนธรรมที่ญี่ปุ่น

กระดาษญี่ปุ่น Washi ทำมจากเปลือกไม้ หลัก ๆ ได้แก่ต้น Kozo (มัลเบอร์รี่) Mitsumata และ Gampi โดยนำมาเข้ากระบวนการผลิตด้วยมือ ซึ่งใช้ยาวนานมาก จนกระทั่งเปลือกไม้กลายเป็นเส้นใย โดยแบ่งประเภทและการใช้งานออกเป็น
1) Hosho: kizuki-Hosho, Otaka-Danshi ใช้สำหรับการพิมพ์ขัดถู กระดาษห่อของขวัญในพิธีแบบดั้งเดิม ใบรับรอง ฯลฯ
2) Gasenshi (กระดาษวาดภาพ) : Gasenshi หรือ Gashi ที่ใช้ในการประดิษฐ์ตัวอักษร ภาพวาด ภาพวาดสไตล์ญี่ปุ่นที่คัดลอกพระสูตร (เรียกว่า Shyakyo ในภาษาญี่ปุ่น) ฯลฯ
3) Torinoko:ใช้สำหรับ Fusuma (ประตูกระดาษ) วอลล์เปเปอร์ ม่านที่พับได้ บัตร ประกาศนียบัตร ฯลฯ
4) Koma-Gami: komagami สำหรับงานศิลปะและงานฝีมือกระดาษที่ใช้ทำฉลากของสาเก (เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ญี่ปุ่นที่ทำจากข้าว) โปสการ์ด กระดาษเขียนจดหมาย ซองจดหมาย โบรชัวร์ กระดาษห่อ กระดาษทำร่ม ฯลฯ สามารถพิมพ์ชื่อยี่ห้อบนกระดาษเหล่านั้นได้
5) Kyokushi ใช้สำหรับทำใบรับรอง ประกาศนียบัตร นามบัตร โปสการ์ด ภาพวาดสีน้ำ ฯลฯ

ข้อแนะนำ : สามารถสัมผัสกิ่งไผ่ที่ประดับอยู่ในเทศกาลเซ็นไดทะนะบะตะได้ แต่อย่าดึงหรือฉีกทำลายเนื่องจากประดิษฐ์ขึ้นจากกระดาษสา

ที่อยู่ : Aoba-ku, Sendai, Miyagi 3-9 ฮอนโจ อะโอบะ อำเภอเซ็นได จังหวัดมิยะกิ
โทรศัพท์ : 022-215-3767
เวปไซต์ : http://www.sendaitanabata.com/en
วันเวลาเปิด-ปิด : แบ่งออกเป็น 2 ช่วง 6 – 7 สิงหาคม ของทุกปี เปิด 10:00 ถึง 22:00 // 8 สิงหาคม เปิด 10:00 ถึง 21:00
การเดินทาง : สถานี JR เซ็นได พื้นที่จัดงาน ลานกิจกรรม (ลานกิจกรรมของสวนโคโตได) 
Google Map : 38.2602355,140.8813964

โปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินเซนไดของการบินไทย

Event แนะนำ

• งานเทศกาลชมดอกไม้ Hana Akari – ประมาณกลางเดือนเมษายน มีเปิดไฟตอนกลางคืน
• งานจุดคบไฟ Donto Festival – เดือนมกราคม
• งานยิงธนูบนหลังม้า Yabusame – เดือนกรกฎาคม
• งานเทศกาลเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ Hotesai – ต้นเดือนมีนาคม

แหล่งท่องเที่ยวฮอกไกโด

• Facebook
• Twitter
• Line