เปิดอีกมิติแห่งการเดินทาง กับเสน่ห์ของรถไฟสายยุโรป

เปิดอีกมิติแห่งการเดินทาง กับเสน่ห์ของรถไฟสายยุโรป

         ไม่ว่าจะที่ใดบนโลกรถไฟเป็นอีกหนึ่งช่องทางการเดินทางที่คลาสสิคมากๆ แต่ละที่ก็มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะ “รถไฟสายยุโรป” ยิ่งเป็นอะไรที่คลาสสิคอย่างหนึ่งบนโลกเลยก็ว่าได้ พวกเรามักจะเคยเห็นภาพของรถไฟตะวันตกเหล่านี้ในหนังหรือภาพยนตร์ผ่านตากันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นวิวทิวทัศน์หรือตัวรถไฟเองล้วนเป็นที่ตรึงตาตรึงใจ เพียงเห็นด้วยตามันยังมีกลิ่นอายแฝงอยู่ แล้วหากคุณได้มีโอกาสใช้บริการรถไฟเหล่านี้ล่ะ มันจะสุดยอดขนาดไหน?

วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเจ้ารถไฟสายยุโรปนี้ ข้อมูลที่ควรรู้ และเสน่ห์ของมันกันครับว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง โดยรถไฟสายยุโรปที่ว่านี้ คือ การเดินทางด้วยเส้นทางรถไฟในทวีปยุโรป ซึ่งมีความเป็นมา และพัฒนาการที่ยาวนาน ตั้งแต่รถไฟจักรไอน้ำจนมาถึงรถไฟความเร็วสูง มีหลากหลายเส้นทางหลากหลายประสบการณ์ให้เลือกถึง 28 ประเทศ แต่วันนี้เราจะพูดถึงรถไฟสายเหล่านี้กับแบบรวมๆ ให้พอรู้จักกันครับ วันนี้เราจะพามาแนะนำกันถึง 4 เส้นทางได้แก่

  1. สายเซตเทิล – คาร์ไลล์ ใน อังกฤษ เป็นเส้นทางรถไฟสายหลักที่น่าประทับใจที่สุดในอังกฤษ” โดยวิ่งผ่านป่าและลอนเขาในชนบท สถานีหลายเส้นทางมีเล้นทางการเดินป่าที่งดงาม ในโซนที่เป็นธรรมชาติคุณจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ของป่าไม้ ภูเขา เขียวชอุ่ม อย่างแน่นอน นานๆ ทีจะได้เห็นกระท่อมสักหลัง และที่เด็ดกว่านั้นในเขตตัวเมืองรับรองว่าคุณจะต้องตื่นตาตื่นใจกับอาคารแบบพื้นเมืองอันงดงามแน่ๆ


  1. เซวิลล์ – มาดริด ใน สเปน หากใครคิดว่าเส้นทางของรุไฟยุโรปจะมีแค่สีเขียวเท่านั้น คุณคิดผิดแล้วเส้นทางของที่นี่เต็มไปด้วยสีสันมากมาย เป็นสีน้ำตาล เหลือง สลับเขียว มีการลอดอุโมงค์ เทือกเขา นอกจากวิวทิวทัศน์แล้วบนรถไปของเส้นทางนี้ (รถไฟ AVE) นับเป็นรถไฟที่หรูหราทันสมัยมากๆ ทั้งการเดินทางก็เงียบสงบ ไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนเลยเพราะว่าเครื่องปรับอากาศที่นี่ดีมาก


 

 

  1. สายเจนีวา – มิลาน จาก สวิตเซอร์แลนด์ ถึง อิตาลี เส้นทางรถไฟสายนี้เริ่มต้นจากเมืองเจนีวาที่มีอารยธรรมหลากหลายที่สุด ข้ามเทือกเขาแอลป์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงาม ถึงแม้รถไฟจะวิ่งด้วยความเร็วสูงแต่รับรองว่าภาพวิวทิวทัศน์นั้นจะติดตาคุณแน่ๆ ด้วยวิวของทะเลสาบ สวนพฤกษาศาสตร์ คฤหาสน์ชนชั้นสูง และเมื่อเข้าใกล้อิตาลีรับรองว่าคุณจะได้เห็นสวนองุ่นเป็นแถวๆ ระหว่างทางยังมีที่ท่องเที่ยวให้แวะอีกด้วย


 

  1. สายแบร์เกน – ออสโล ในนอร์เวย์ เป็นสายที่อยู่ในระดับความสูงที่สูงสุดของยุโรปเหนือแน่นอนว่าคุณจะได้รับชมความงดงามข้างทางแบบสุดลูกหูลูกตา ไฮไลท์มีตั้งแต่เส้นทางที่สูงชันที่สุดในโลก รวมไปถึงวิวของธารน้ำแข็ง ซึ่งหมายความว่าหากถึงหน้าร้อนคุณก็จะได้ชมดอกไม้งามๆ ทุ่งหญ้าสีเขียวสด แต่หากมาหน้าหนาวทุกอย่างก็จะเป็นหิมะขาวโพลนและธารน้ำแข็ง โรแมนติกสุดๆ ไปเลยล่ะ


 

ก็พอหอมปากหอมคอกันแล้วกับตัวอย่างเส้นทางรถไฟที่แนะนำไป แล้วอะไรบ้างล่ะที่ควรรู้เกี่ยวกับรถไฟสายยุโรปเหล่านี้?

  • สามารถใช้บัตรโดยสารแบบเหมารวมได้ด้วยนะ ซึ่งแตกต่างตามแต่ละท้องถิ่นเลย มีหลายประเภทเลย เช่น Eurail Global Pass, Eurail Select Pass, European East Pass และ BritRail Pass เป็นต้น
  • บัตรโดยสารเหล่านี้หลายคนอาจจะมองว่าแพงแต่นับว่าคุ้มมาก เพราะมันช่วยประหยัดไปได้เยอะเลย ซึ่งเราต้องวางแผน เช็คตารางต่างๆ ให้ดี
  • การโดยสารรถไฟตู้นอนถูกกว่าพักโรงแรม ทั้งยังได้ชมวิวช่วงกลางวันด้วย โดยที่อุดหูนั้นจะทำให้คุณนอนสบายขึ้น
  • ในฤดูท่องเที่ยวต้องจองตั๋วล่วงหน้าสำหรับการเดินทางระหว่างเมือง
  • มื้ออาหารในรถไฟนั้นเป็นอะไรที่สุดยอดมาก หากต้องการทานบนโต๊ะควรจองไว้ก่อน เพราะใครๆ ก็อยากมีโอกาสแบบนี้
  • ผู้เดินทางระยะไกลควรนำผ้าเช็ดตัว ที่อุดหู และเบาะลมติดมาด้วย
  • ควรซื้อตั๋วก่อนขึ้นรถไฟเสมอ เพราะอาจจะโดนปรับได้
  • การจองตั๋วรถไฟนั้นไม่ยากอย่างที่คิด มีเว็บที่เป็นตัวแทนซื้อขายตั๋ว และมีโปรโมชั่นมากมาย

 

กล่าวได้ว่าการเดินทางด้วยรถไฟสายยุโรปนั้นนับว่าเป็นอีกช่องทางที่สะดวก และมีเสน่ห์มากๆ ในการเดินทาง จะมีการเดินทางแบบไหนอีกที่มาทดแทนเสน่ห์ของรถไฟเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบคมนาคมที่มีประสิทธิภาพ แถมยังได้รับชมวิวทิวทัศน์สวยๆ อยู่ตลอดทาง จนถือว่าเป็นอีกหนึ่งการท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ ตลอดเส้นทางนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวของธรรมชาติ สังคม และผู้คนแตกต่างกันไปตามแต่ละเส้นทาง โดยการท่องเที่ยวด้วยรถไฟสายยุโรปนี้คือคำตอบของนักเดินทางที่มุ่งสำรวจและหาประสบการณ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยเสน่ห์ของรถไฟสายยุโรปนี้ทำให้รถไฟนั้นไม่ใช่แค่ยานหนะ แต่จะให้เป็นสถานที่เลยก็เป็นได้