แนะนำตลาดปลาชื่อดังจากทั่วโลก ที่คุณต้องไปลองสัมผัสดูซักครั้งก่อนตาย

แนะนำตลาดปลาชื่อดังจากทั่วโลก ที่คุณต้องไปลองสัมผัสดูซักครั้งก่อนตาย

เมื่อได้ยินคำว่าตลาดปลา ทำให้เรานึกถึงอะไรบ้าง กลิ่นคาว พื้นเปียกแฉะ หรือเกล็ดปลาและเลือดนองเต็มพื้น นั่นอาจเป็นภาพแรกที่เรามักจะนึกถึงเมื่อพูดเรื่องราวเกี่ยวกับตลาดปลา แต่ก็ไม่ใช่แบบนั้นเสมอไปในปัจจุบันตลาดปลาบางแห่งเปรียบเสมือนเป็นแหล่งรวบรวมวัตถุดิบอาหารทะเลมาไว้สำหรับขายให้ลูกค้าเท่านั้น มีทั้งจุดบริการรับปรุงอาหาร ร้านอาหาร เคาน์เตอร์ทานอาหาร และแบบใส่ในแพ็คไว้บริการ วันนี้พี่ช้างจะพาไปชม ตลาดปลายอดฮิตที่ต้องไปเยือนดูซักครั้งแล้วคุณจะพบกับแหล่งที่มาวัตถุดิบชั้นยอดที่คุณอาจไม่เคยพบเจอมาก่อน

7. ตลาด Pike Place

เมืองซีแอทเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา

ตลาดนี้เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงมาก ให้บรรยากาศแบบวินเทจสุดๆเพราะมีอายุกว่า 100 ปีแล้ว ที่นี่เป็นแหล่งรวมวัตถุดิบสดใหม่มากมายทั้งผัก ผลไม้ เนื้อชั้นดี และโดยเฉพาะอาหารทะเลสดใหม่จากเขตแดนอลาสก้า จากฟาร์มเล็ก ใหญ่ เหล่าเกษตรกร ช่างฝีมือมารวมตัวกันมากมาย ใน 1 ปีมักจะมีผู้คนมาเยี่ยมชมตลาดแห่งนี้จำนวนมากถึง 10 ล้านคนเลยทีเดียวครับ ทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นย่านการค้าที่สำคัญแห่งหนึ่งของซีแอทเทิลเลยแถมที่นี่ยังมีร้าน

Starbucks ที่เป็นสาขาแรกของโลกอีกด้วย 

เดินเข้าไปจะเห็นเลยว่าคนต่อคิวยาวมากๆก็เป็นสาขาแรกของโลกเลยนี่เนอะแถมด้านในยังมีการอนุรักษ์บรรยากาศดั้งเดิมของร้านเอาไว้อีกด้วย แฟน Starbucks คนไหนได้ไปถ่ายภาพเก็บไว้คงปลื้มสุดๆ ส่วนใครที่เข้าไปเดินในโซนตลาดคงไม่พลาดร้านดังของที่นี่เพราะถือเป็นสัญลักษณ์ประจำ Pike Place อย่างร้านขายปลาที่มีการโยนปลากันไปมาอย่างกับเล่นลิงชิงบอลเลยร้านนี้จะค่อนข้างเฮฮา และคนมุงเยอะเพราะได้ออกทีวีอยู่บ่อยๆครับ ย่านนี้เรียกได้ว่าครบรสใครมารับรองไม่ผิดหวัง มีแต่ของอร่อย บรรยากาศดีๆ ผู้คนเป็นมิตร ทะลึ่งแต่ตลกเฮฮา ลองไปสัมผัสดูซักครั้งสิครับ

วันที่เปิดให้บริการ : เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันขอบคุณพระเจ้าและวันคริสต์มาส
เวลาให้บริการ : จันทร์-เสาร์ 09.00-18.00 น. / อาทิตย์ 09.00-17.00 น. ควรไปถึงก่อนเที่ยงตรง ร้านอาหาร ร้านขนม และร้านสินค้าฝีมือต่างๆจะเปิดในช่วงสาย
ลักษณะของตลาด : ตลาดในร่ม
การแต่งกาย : รองเท้ากันลื่น


6. ตลาด Torvehallerne

เมืองโคเปนฮาเกน ประเทศเดนมาร์ก

ที่นี่เป็นตลาดที่มีชื่อเสียง และผู้คนคึกคักมาก ส่วนหน้าตาตลาดจะไม่ใช่ตลาดสดท่าเรืออย่างที่เรานึกภาพกันครับแต่เป็นตึกขนาด 2 ชั้นคล้ายห้างสรรพสินค้า หรือซูเปอร์มาร์เก็ต ภายในจะมีร้านค้าขายอาหารเต็มไปหมดทั้งสด ทั้งปรุงแล้ว แต่ที่นี่ไม่ได้มีแค่ปลาเท่านั้น ยังรวมไปถึงวัตถุดิบชั้นยอดที่มีชื่อเสียง ทั้งเนื้อสัตว์ วัว หมู ไก่ แกะ อาหารทะเลสดใหม่เนื้อหวาน ชีส ผลไม้ ไวน์ชั้นเลิศ เบียร์คราฟ และอาหารอื่นๆอีกมากมาย ใครมาถึงเดนมาร์กแล้วไม่ได้แวะมาที่นี่ถือว่าพลาดเลยล่ะ แต่จริงๆแล้วประเทศเดนมาร์กมีร้านอาหารกระจายอยู่เป็นจำนวนมากเลยครับ เมนูที่แนะนำจะเป็นจานที่เป็นอาหารทะเล สดมากๆ แถมอร่อยอีกด้วย คุ้มค่าแก่การตะลุยกินจริงๆครับ
วันที่เปิดให้บริการ : เปิดให้บริการทุกวัน แต่เวลาเปิดปิดจะต่างกันไป

เวลาให้บริการ :

  • จันทร์-พฤหัสบดี 10.00-19.00 น.
  • ศุกร์ 10.00-20.00 น.
  • เสาร์ 10.00-18.00 น.
  • อาทิตย์ และวัดหยุดของประเทศเดนมาร์ก 11.00-17.00 น.

ลักษณะของตลาด : ตลาดในร่ม ไม่มีน้ำนองที่พื้น ไม่มีกลิ่นคาว สะอาด
การแต่งกาย : รองเท้ากันลื่น


5. ตลาดปลานอร์ยางจิน (Noryangjin)

กรุงโซล ประเทศเกาหลี

บรรยากาศตลาดปลาที่นี่ให้อารมณ์ที่คล้ายๆกับเมืองไทยอยู่เล็กน้อยในเรื่องบรรยากาศของผู้คน แต่ต่างกันที่ที่นี่มีร้านอาหารให้บริการด้วยครับอยู่บริเวณชั้น 2 ส่วนหลักๆ ด้านล่างจะเป็นตลาดสด ด้านบนจะเป็นร้านอาหารสามารถซื้อของจากด้านล่างมาให้ร้านอาหารปรุงให้ได้ ถือเป็นตลาดชื่อดังของกรุงโซลเลยเมื่อเดินเข้าไปบางทีก็จะเจอกับกรุ๊ปทัวร์บ้างประปราย อาหารทะเลที่มีขายอยู่ในตลาดก็อาจจะดูแปลกตาอยู่บ้างเล็กน้อยเพราะมีขนาดที่ใหญ่มากๆ เห็นขนาดแล้วเกือบจะตาค้างไปเลย แต่ต้องขอบอกว่าพ่อค้าแม่ค้าที่นี่มีอัธยาศัยดีมากๆครับ

พอเห็นเป็นนักท่องเที่ยวเดินๆไปอยู่ดีๆก็หยิบปลาหมึกสดๆขึ้นมาตัดหนวดที่ยังดิ้นดุ๊บๆให้ลองกินซะเฉยๆ

เสียงดังของคนค้าขายก็เป็นธรรมดาเหมือนบ้านเราเลยครับเหมือนเป็นการเรียกลูกค้า สำหรับของที่อยากให้เพื่อนๆมาลองที่นี่เลยก็คือกิมจิปลาหมึก และซันนักจีหรือปลาหมึกสดๆดิ้นดุ๊บๆทานแบบนั้นเลยครับเป็นอะไรที่แปลกดีสำหรับคนไทย

วันที่เปิดให้บริการ : เปิดให้บริการทุกวัน
เวลาให้บริการ : เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แต่บางร้านค้าอาจเปิดปิดเป็นเวลา จะเริ่มคึกคักช่วง 4.00-6.00 น. ของทุกวัน
ลักษณะของตลาด : ส่วนด้านล่างที่เป็นตลาดสดจะเหมือนของไทย พื้นเปียกแฉะ มีกลิ่นคาวปลา แต่ส่วนชั้น 2 ที่เป็นร้านอาหารจะค่อนข้างสะอาดพื้นไม่เปียกแฉะ อยู่ในร่ม
การแต่งกาย : ไม่ควรใส่รองเท้าแตะ แนะนำรองเท้ากันลื่น แต่งตัวให้กระฉับกระเฉงไม่ควรมีอะไรห้อยปลิวไปมา


4. ตลาด Bergen

ประเทศนอร์เวย์

Salmon lover ต้องไปตามที่นี่เลยเพราะที่นี่คือแหล่งเลี้ยงแซลมอนชั้นดีอันดับหนึ่งของโลก เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดแห่งวัตถุดิบแซลมอนที่คนรักแซลมอนต้องไม่พลาดเด็ดขาด แต่ราคาจะค่อนข้างแตกต่างจากเมืองไทยอยู่มากครับ ก็คือราคาค่อนข้างสูงแต่รับรองว่ารสชาติละมุนลิ้นมากจริงๆทุกส่วนมีมันแทรกแบบเคี้ยวลื่น อร่อยไปซะทุกส่วน ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดติดท่าน้ำมีทั้งส่วนกลางแจ้งและในร่มครับสามารถซื้อแบบเป็นของสดกลับบ้าน หรือสั่งแล้วนั่งทานได้เลย
วันที่เปิดให้บริการ : เปิดให้บริการต่างกันตามซีซัน
เวลาให้บริการ : ตามตารางซีซันของตลาด Bergen

  • 1 พ.ค.2018 – 30 ก.ย.2018 เปิดจันทร์-อาทิตย์ 08.00-23.00 น.
  • 1 ต.ค.2018 – 31 ธ.ค.2018 จันทร์-พฤหัสบดี 10.00-23.00 น. / ศุกร์-เสาร์ 09.00-23.00 น. / อาทิตย์ 11.00-23.00 น.
  • 1 ม.ค.2019 – 30 เม.ย.2019 จันทร์-พฤหัสบดี 10.00-23.00 น. / ศุกร์-เสาร์ 09.00-23.00 น. / อาทิตย์ 11.00-23.00 น.
  • 1 พ.ค.2019 – 30 ก.ย.2019 เปิดจันทร์-อาทิตย์ 08.00-23.00 น.

ลักษณะของตลาด : ตลาดในอาคารมีร่ม และกลางแจ้ง
การแต่งกาย : ควรใส่รองเท้าที่พื้นกันลื่นได้ดี และใส่กางเกงขายาวไม่รุ่มร่าม


3. ตลาดปลาซิดนีย์ (Sydney Fish Market)

เมืองซิดนีย์ ถนน Bank Street, Pyrmont ประเทศออสเตรเลีย

ตลาดปลาซิดนีย์เป็นตลาดปลาค้าส่งที่ถือว่ามีชื่อเสียงมากในระดับโลกและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกในฐานะตลาดปลา อย่างที่ทราบกันดีว่าซิดนีย์เป็นเมืองติดทะเลและเป็นเมืองท่าทำให้มีวัตถุดิบจากทะลมาลงขายมากถึง 50 ตัน/วัน และทำรายได้ให้ประเทศจากการส่งออกสินค้าอาหารทะเลอย่างมหาศาล ภายในตลาดมีสินค้าให้บริการมากมายนอกเหนือจากอาหารทะเลยังมีทั้งผลไม้ เนื้อสัตว์ ชีส และอาหารอื่นๆที่เป็นของสดและปรุงพร้อมทานแล้วให้ได้เลือกซื้อไปนั่งทานกันได้อย่างสบายใจ หรือสามารถเลือกซื้อวัตถุดิบสดใหม่มาให้ทางร้านอาหารปรุงให้ก็ได้ เรียกได้ว่าเป็นอาณาจักรแห่งอาหารเลยทีเดียว นอกเหนือจากนั้นที่นี่ยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากก็ คือ โรงเรียนสอนทำอาหาร ชื่อว่า ซิดนีย์ ซีฟู้ด (Sydney Seafood School) ที่ทีผู้มาเข้าเรียนมากกว่า 12,000 คน/ปี

นอกจากนี้ยังมีการเปิดประมูลสินค้าผ่านระบบออนไลน์บนคอมพิวเตอร์ให้ชาวต่างชาติมาเลือกซื้อกันได้อย่างแพร่หลาย แถมยังมีบริการ ทัวร์ชื่อว่า Behind the scenes ที่จะมีไกด์อธิบายที่มาที่ไปของตลาด การซื้อขาย ได้ชมการประมูลสินค้าที่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าชมได้ รวมทั้งจะได้เข้าชมที่ Sydney Seafood School อีกด้วย โดยมีค่าบริการอยู่ที่ $35/คน ตั้งแต่เวลา 6.40-8.30 น. สามารถเข้าไปชมรายละเอียดและจองทัวร์ได้ในเว็ปไซต์เลยครับ ใครมาถึงซิดนีย์แล้วต้องมาร์กที่นี่ไว้เป็นสถานที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาดเลย

วันที่เปิดให้บริการ : เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นคริสต์มาส
เวลาให้บริการ : จันทร์-พฤหัสบดี 7.00-16.00 น. / ศุกร์-อาทิตย์ 7.00-17.00 น. (บางร้านค้า)
ลักษณะของตลาด : ตลาดในอาคารมีร่ม บางจุดพื้นลื่น ไม่มีน้ำนอง กลิ่นไม่แรง
การแต่งกาย : ห้ามใส่รองเท้าหนัง และรองเท้าแตะ ควรใส่รองเท้าที่พื้นกันลื่นได้ดี และใส่กางเกงขายาวไม่รุ่มร่าม


2. ตลาดปลาซึคิจิ (Tsukiji)

ประเทศญี่ปุ่น ตลาดที่กำลังจะกลายเป็นตำนาน

ถ้าพูดถึงชื่อตลาดซึกิจิ (Tsukiji) ในหมู่นักท่องเที่ยวที่เคยมาเยือนประเทศญี่ปุ่นจะต้องร้องอ๋อแน่นอน เพราะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาเยือน เพื่อมาลิ้มรสปลาสดใหม่จากท้องทะเล จากร้านชื่อดังในตลาดอย่างไดซูชิ ต้องมารอคิวตั้งแต่เช้ามืดกันเลย ไปทีไรก็ต้องท้อแท้กับคิวที่ยาวล้นออกมานอกตัวร้านเกือบโลแต่เมื่อเทียบกับความอร่อยก็พอทำใจได้อยู่ครับ ตลาดปลาซึกิจิถือเป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มีการซื้อขายอาหารทะเลจำนวนมากกว่า 2,500 ตัน/วัน รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางการประมูลวัตถุดิบที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก

แต่ตลาดที่นี่กำลังจะกลายเป็น ตำนาน ไปแล้ว

เนื่องจากตลาดซึกิจิจะเริ่มปิดทำการในวันที่ 6 ตุลาคม 2018 แต่ไม่ต้องเสียใจไปครับเพราะตลาดปลาซึกิจิจะทำการย้ายไปยังพื้นที่ใหม่โดยใช้ชื่อว่าตลาด “โทโยสุ” เกาะโอไดบะ และเปิดทำการในวันที่ 11 ตุลาคม 2018 ส่วนพื้นที่ตลาดเก่าซึกิจิจะถูกทุบทำเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่ไว้สำหรับรองรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 2020 เหตุผลหลักที่ย้ายน่าจะมาจากความทรุดโทรมของตลาดเก่าทำให้ไม่สามารถรองรับแรงของแผ่นดินไหวได้ต้องได้รับการปรับปรุงพื้นที่โดยด่วน แนะนำให้รีบมาตามเก็บบรรยากาศและร้านอาหารเด็ดๆที่นี่ก่อนที่ตลาดจะถูกย้ายไปนะครับ แอบกระซิบอีกทีว่าร้านไข่หวานที่ตลาดอร่อยมากๆ

วันที่เปิดให้บริการ : เปิดให้บริการทุกวัน
เวลาให้บริการ : เวลา 03.00-14.00 น.
ลักษณะของตลาด : ตลาดกลางแจ้ง มีร้านอาหาร ส่วนค้าส่ง และส่วนประมูลเป็นอาคารในร่ม มีรถสกู๊ตเตอร์วิ่งไปมาต้องระวังรถให้ดีเดินมองทางด้านหน้าและหลัง
การแต่งกาย : ไม่สามารถใส่รองเท้าแตะเข้าได้ และรองเท้าควรมีกันลื่น


1.Addiction Aquatic Development

ในย่านตลาดปลาไทเป (Taipei Fish Market) เมืองไทเป ประเทศสาธารณะรัฐจีน (ไต้หวัน)


ที่ตลาดแห่งนี้จะมี 2 ส่วน ส่วนแรกจะเป็นตลาดกลางแจ้งทั่วไป และอีกส่วนที่เป็นตึกเราจะเรียกว่า Addiction Aquatic Development เป็นอาคารติดแอร์สร้างใหม่ครับ ภายในตึกคือแหล่งรวบรวมวัตถุดิบจากท้องทะเลชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองไทเปเลย จะให้อารมณ์เหมือนมาเดินซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีร้านอาหารมากกว่าตลาดครับ มีที่นั่งทาน เป็นแบบโต๊ะ และเคาน์เตอร์ยืนทานได้ แต่ยอมรับว่าของที่นี่สดมาก แพ็คเกจจิ้งสวยงาม สะอาด ประเภทอาหารจะมีหลายแบบมากทั้งแบบซาชิมิ ซูชิ ปิ้งย่าง ฮอทพอท รวมทั้งวัตถุดิบสดๆปลา ปู กุ้ง ไข่หอยเม่น ปลาไหล หอยนานาชนิด ไข่กุ้ง รวมทั้งของหวาน เหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่นเลยครับ และในช่วงแรกๆบางอย่างราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับตลาดในประเทศญี่ปุ่นครับ แต่ตอนนี้นักท่องเที่ยวเริ่มเยอะขึ้นแอบมีขยับขึ้นราคามาแล้วนิดหน่อยครับ แต่ของยังได้มาตรฐานไม่เปลี่ยนนะ ส่วนตลาดกลางแจ้งด้านนอกต้องยอมรับว่าของถูกกว่าในอาคารติดแอร์อยู่มากเลยครับ แต่จะเป็นลักษณะของสดมากกว่าต้องนำมาปรุงเอง แต่จะมีร้านที่สามารถนั่งทานได้เหมือนกัน ซาชิมิที่นี่สดมากๆและราคาถูกด้วยขนาดร้านในอาคารติดแอร์ยังมารับของจากร้านนี้ไปเลยครับ แนะนำให้เดินตลาดกลางแจ้งกันก่อนเข้าอาคารติดแอร์นะครับ

วันที่เปิดให้บริการ : เปิดให้บริการทุกวัน
เวลาให้บริการ : 06.00-00.00 น. ไม่แนะนำให้มาตอนเที่ยงเพราะคนค่อนข้างเยอะ
ลักษณะของตลาด : ตลาดกลางแจ้งมีน้ำนองเล็กน้อย ภายในอาคารติดแอร์ เดินสะดวกสบาย
การแต่งกาย : สวมเสื้อผ้าแบบสบายๆ แต่เดินตลาดกลางแจ้งแนะนำรองเท้ากันลื่นไม่แนะนำรองเท้าแตะครับ

 

จบแล้วครับกับการแนะนำตลาดชื่อดัง จริงๆยังมีตลาดอีกหลายที่เลยครับที่พี่ช้างอยากจะแนะนำแต่จะเอาไว้คราวหน้าดีกว่าให้พี่ช้างรวบรวมได้หลายๆที่แล้วจะมาเล่าสู่กันฟังใหม่ครับ ส่วนตอนนี้ขอไปฟาดแซลมอนซัก 10 โลก่อนนะ