ประกัน การเดินทาง รายปี กับ รายเที่ยว เลือกใช้ยังไงให้คุ้มมาดูกัน

ประกัน การเดินทาง รายปี กับ รายเที่ยว เลือกใช้ยังไงให้คุ้ม

ประกันการเดินทาง รายปี vs รายเที่ยว

ทำไมจึงต้องมี ประกันการเดินทาง ก็เพราะว่า ‘ชีวิตตั้งอยู่บนความไม่แน่นอน’ ไม่ว่าจะวันไหน เวลาไหน ที่ไหน เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็มักเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และยิ่งเราอยู่ในสถานที่ สถานการณ์ หรือการเดินทางที่เราไม่คุ้นเคย อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตามเราก็ยังคงต้องดำเนินชีวิตอย่างมีสติอยู่เสมอ สิ่งที่ทำได้ คือ การวางแผนล่วงหน้าเพื่อหาวิธีป้องกันและรับมือกับความไม่แน่นอนเหล่านั้น ‘ประกันการเดินทาง’ จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีความสำคัญอันดับต้นๆ สำหรับนักเดินทางที่จะคอยช่วยเหลือรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างดี ในสมัยนี้ประกันเดินทางมีรูปแบบความคุ้มครองที่หลากหลายให้นักเดินทางเลือกสรรได้ตรงตามรูปแบบการเดินทางกันมากขึ้น แต่ในวันนี้สิ่งที่เราจะมาพูดถึงหลักๆก็คือ แผน ประกัน การเดินทาง รายปี และ รายเที่ยว

ประกันการเดินทางต่างประเทศ ประกันประเภทนี้คือแผนประกันที่คุ้มครองผู้เอาประกันขณะที่เดินทางไปยังต่างประเทศ โดยความคุ้มครองจะเริ่มตั้งแต่เราก้าวเท้าออกจากบ้าน ลอยอยู่บนน่านฟ้า รวมถึงช่วงเวลาที่ผู้เอาประกันกำลังเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในต่างประเทศ จนกระทั่งกลับถึงบ้าน ซึ่งประกันการเดินทางนั้นจะให้ความคุ้มครองครอบคลุมเรื่องต่างๆ เช่น อุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาล เที่ยวบินล่าช้า การยกเลิกการเดินทาง กระเป๋าเดินทางเสียหาย และการโจรกรรม หรือแม้กระทั่งการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นต้น สำหรับใครหลายๆคนที่อ่านมาถึงช่วงนี้อาจเกิดคำถามในใจว่า ‘เราจำเป็นจะต้องเสียเงินให้กับสิ่งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นด้วยหรือ?’ คำตอบนั้นคือ ไม่อยากให้ทุกคนต้องเจอด้วยตัวเองก่อนเห็นความสำคัญ เพราะว่า มีไว้ใช้คงดีกว่าตอนจะใช้แล้วไม่มีนะครับ

เค้าว่ากันว่า “เลือกประกันให้เหมือนเลือกคู่ชีวิต” หากเลือกคู่ชีวิตที่ไม่ดีก็เหมือนมีดาบสองคม ในวันนี้เราจะมาเปรียบเทียบกันระหว่าง ประกันการเดินทาง รายปี และรายเที่ยว ว่าเลือกใช้ยังไงให้คุ้ม แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าความคุ้มค่าในที่นี้ไม่ใช่แค่เรื่องตัวเงินเพียงเท่านั้น แต่จะต้องครอบคลุมทุกช่วงเวลาของการเดินทาง ทุกย่างก้าว สะดวก และรวดเร็วในการให้บริการ

การเลือกซื้อประกันมีหลักการที่ไม่ซับซ้อนอะไรมาก ให้คิดเอาไว้เลยว่าถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้วเราจะต้องรับมือกับมันให้ได้ ดังนั้น เมื่อจะตัดสินใจซื้อประกันให้มองเพียงแค่ว่าเราเสียอะไรไป และเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดในอนาคตเราจะได้อะไรกลับมาสำหรับในแง่ของความแตกต่างระหว่าง ประกัน การเดินทาง รายปี และ รายเที่ยว นั้นความคุ้มครองครอบคลุมก็จะมีความคล้ายคลึงกัน ต่างกันตามบริษัทประกันผู้ให้บริการ และราคา สำหรับสิ่งที่ทำให้ประกันการเดินทาง รายปี แตกต่างจากแบบรายเที่ยวที่เห็นได้ชัดที่สุดจะเป็นเรื่อง ‘ระยะเวลาความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งปี’ ‘ไม่ต้องสมัครรายครั้ง’ ‘จำนวนครั้งในการให้ความคุ้มครองที่ไม่จำกัด’และ‘ความคุ้มครองที่มักสูงกว่า’ ส่วนอีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้รู้สึกว่าคุ้มค่าในการซื้อมากที่สุดก็คือ “บริการ โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่างๆของแพ็คเกจ ประกัน การเดินทาง รายปี” ที่ถือว่าเป็นผลพลอยได้จากการทำประกัน ซึ่งเราต้องเปรียบเทียบแล้วเลือกดูว่ารูปแบบการเดินทาง และแผนการเดินทางของเรานั้นเหมาะสมกับประกันประเภทใดมากที่สุด และประกันแบบไหนที่จะให้ผลประโยชน์กับเรามากที่สุด


Checklist ประกันการเดินทาง รายปี vs รายเที่ยว

สำหรับใครที่ยังเลือกไม่ได้ว่าควรซื้อประกันการเดินทางหรือไม่ ให้ตอบคำถามให้ครบทุกข้อ ดังนี้ครับ

กติกา : เลือกตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ โดยการนับคะแนนหากเลือก ‘ใช่’ จะได้ 1 คะแนน หากเลือก ‘ไม่’ จะได้ 0 คะแนน

  1. ในหนึ่งปีคุณวางแผนที่จะเดินทางไปต่างประเทศเกิน 2 ครั้งหรือไม่?
  2. มีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินทำให้คุณต้องเดินทางไปต่างประเทศแบบไม่ได้วางแผนไว้หรือไม่?
  3. คุณเป็นคนขี้ลืมหรือไม่?
  4. คุณเป็นคนที่ประมาทและไม่ระมัดระวังจนทำให้เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยอยู่บ่อยๆหรือไม่?
  5. คุณกังวลถึงการโจรกรรมทรัพย์สินของคุณใช่หรือไม่?
  6. คุณกังวลถึงเหตุการณ์กระเป๋าเดินทางชำรุดระหว่างเดินทางที่เกิดจากการเคลื่อนย้ายของสายการบิน?
  7. เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟลท์บินดีเลย์คุณเสียดายเวลาหรือไม่?
  8. กรณีเกิดการเจ็บป่วยถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลในต่างประเทศ แต่คุณไม่ต้องสำรองเงินของตนเองเพื่อจ่ายค่ารักษาก่อนเป็นเรื่องดีหรือไม่?
  9. คุณต้องการได้รับเงินชดเชยหากเกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุร้ายแรง จนทำให้ถึงแก่ชีวิต ทุพพลภาพถาวร หรือสูญเสียอวัยวะใช่หรือไม่?
  10. คุณต้องการได้รับเงินชดเชยรายวันในกรณีที่เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในต่างประเทศใช่หรือไม่?

ผลคะแนน : หากได้คะแนนมากกว่า 2 คะแนนขึ้นไป นั่นหมายความว่าคุณควรซื้อประกันเดินทางนะครับ

จากข้อคำถามทั้งหมดนั้นจะเห็นได้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละข้อเป็นสิ่งที่เรารับมือได้ยากมากเมื่อเดินทางอยู่ในต่างประเทศ ดังนั้น หากคุณตอบว่า ‘ใช่’ มากกว่า 2 ข้อขึ้นไปนั่นหมายความว่าคุณควรมีประกัน การเดินทางครับ ถ้าคิดง่ายๆหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันนั่นแปลว่าเราจะมีแต่ เสีย แต่ถ้าเรามีประกัน การเดินทางไว้แล้วเมื่อเกิดเหตุการณ์ เรายังจะ ได้คืนในบางส่วน นั่นเองครับ


ข้อแตกต่างระหว่างประกันการเดินทางแบบรายปี และแบบรายเที่ยว จากบริษัท Cigna

ผลประโยชน์ ประกันการเดินทาง รายปี ประกันการเดินทาง รายเที่ยว
เบี้ยประกัน
(ที่ต้องชำระ)
เอเชีย เชงเก้น/ทั่วโลก เพิ่มเบี้ยประกันตามจำนวนวัน และขึ้นอยู่กับโซนประเทศที่จะเดินทางไป
Premier –  3,200
Business – 4,750
Prime – 7,500
Premier –  3,800
Business – 5,600
Prime – 8,800
จำนวนครั้งที่จ่ายค่าเบี้ย ครั้งเดียว ก่อนเดินทางทุกครั้ง
ระยะเวลาการคุ้มครอง 1 ปี (นับตั้งแต่วันที่เลือก+1ปี) 1 เที่ยวเดินทาง
ประเทศที่คุ้มครอง ทั่วเอเชีย / ประเทศเชงเก้น+ทั่วโลก เฉพาะประเทศที่เลือกไว้เท่านั้น
วันเดินทางสูงสุด/เที่ยว 30 วัน/เที่ยวเดินทาง 90 วัน/เที่ยวเดินทาง
จำนวนเที่ยว ไม่จำกัดจำนวนเที่ยวใน 1 ปี 1 เที่ยวเดินทาง
หมดอายุ เมื่อสิ้นสุดกรมธรรม์ เมื่อเดินทางกลับถึงเมืองไทย
แผนประกันหลัก A : คุ้มครองการเจ็บป่วย อุบัติเหตุต่างๆ การเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวร
ประกันอุบัติเหตุ สูงสุด 6 ล้านบาท สูงสุด 5 ล้านบาท
ค่ารักษาพยาบาล สูงสุด 6 ล้านบาท สูงสุด 4 ล้านบาท
ค่าชดเชยรายวันเมื่อนอนรักษาตัว สูงสุด 3,000 บาท/คืน สูงสุด 2,500 บาท/คืน
การเคลื่อนย้ายฉุกเฉิน สูงสุด 5 ล้านบาท สูงสุด 5 ล้านบาท
ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล  รวม  รวม
บริการข้อมูลก่อน และระหว่างเดินทาง  รวม  รวม
แผนประกันเสริม Flight Secure (B) : คุ้มครองเรื่องที่เกิดจากการเดินทาง ไฟลท์บินต่างๆ
ได้รับชดเชยเมื่อไฟลท์ยกเลิก หรือเลื่อน สูงสุด 30,000 บาท สูงสุด 30,000 บาท
ไฟลท์ดีเลย์ติดต่อกัน 6 ชม. เป็นอย่างต่ำ สูงสุด 3,500 บาท/6 ชั่วโมง สูงสุด 4,000 บาท/6 ชั่วโมง
พลาดต่อเที่ยวบิน สูงสุด 20,000 บาท สูงสุด 60,000 บาท
ลดจำนวนวันเดินทาง / จี้เครื่องบิน สูงสุด 60,000 บาท สูงสุด 60,000 บาท
แผนประกันเสริม Property Safe (C) : คุ้มครองเรื่องทรัพย์สิน
กระเป๋าเดินทางเสียหาย และทรัพย์สินถูกปล้น สูงสุด 70,000 บาท สูงสุด 50,000 บาท
กระเป๋าเดินทางเสียหาย และทรัพย์สินสูญจากภัยธรรมชาติ รับเพิ่มสูงสุด 20,000 บาท รับเพิ่มสูงสุด 20,000 บาท
กระเป๋าเดินทางล่าช้า สูงสุด 50,000 บาท สูงสุด 50,000 บาท
เงินสูญหาย สูงสุด 3,000 บาท สูงสุด 3,000 บาท
เอกสารเดินทางสูญหาย สูงสุด 5,000 บาท สูงสุด 5,000 บาท

 


สรุป : สำหรับตารางด้านบนนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจด้วยตัวเองได้ง่ายขึ้นว่าจะเลือกซื้อประกันการเดินทางแบบใด  โดยข้อมูลแผนประกันในตารางนั้น คือตัวอย่างแผนประกันการเดินทางรายปี และรายเที่ยวจาก Cigna ที่ต้องเลือกบริษัทนี้ เพราะ เมื่อทำการเปรียบเทียบจากหลายบริษัทแล้วถือว่า Cigna ให้การบริการคุ้มครองได้ครบครันมากที่สุด และคุ้มค่าเงินมากที่สุดครับ อีกทั้งข้อดีที่สำคัญมากที่สุดคือเมื่อจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในต่างประเทศทางบริษัทมีเบอร์โทรฉุกเฉินเพื่อจะเป็นผู้ประสานงานให้เราตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่เงียบ ไม่หาย ติดต่อได้ 24 ชั่วโมง และที่สำคัญเข้าโรงพยาบาลทั่วโลก ‘ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองซักบาท’ ดังนั้น จากการเปรียบเทียบแผนประกันการเดินทางรายปี และรายเที่ยว เราจะมาวิเคราะห์ความคุ้มค่าเป็นกรณีตัวอย่างไปพร้อมๆกันครับ

ตัวอย่าง : สมมติว่าคุณจะเลือกซื้อประกันที่มีแผนคุ้มครองหลัก และเสริมแบบครบถ้วน และเป็นแผนระดับสูงที่สุดอย่างในตารางด้านบน แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อแผนประเทศเชงเก้น/ทั่วโลกแบบรายปี หรือ เลือกประเทศ และจำนวนวันจ่ายเป็นรายเที่ยว จึงจะคุ้มค่าที่สุด ซีน่าจึงวิเคราะห์ออกมาดังนี้

เปรียบเทียบประกันการเดินทาง รายเที่ยว


ประกันการเดินทางรายปี

เหมาะกับใคร : ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศมากกว่า 2 ครั้งใน 1 ปี

ข้อดี (เมื่อเทียบกับแบบรายเที่ยว)

  • จ่ายครั้งเดียว คุ้มครอง 1 ปี ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มแล้ว
  • ใน 1 ปี เดินทางเที่ยวได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
  • เงินทดแทนจากแผนคุ้มครองหลักได้มากกว่า
  • ให้ความคุ้มครองครอบคลุมประเทศเชงเก้น และทั่วโลก
  • เงินทดแทนกระเป๋าเสียหาย และการถูกปล้นจากแผน C ได้มากกว่า เพราะสนามบินมักทำกระเป๋าเดินทางพังบ่อยมาก
  • เดินทางได้นานถึง 30 วัน/เที่ยว แต่ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
  • เหมาะสำหรับคนที่ขี้ลืม ไม่ต้องซื้อทุกครั้งที่เดินทาง
  • ไปประเทศเชงเก้นต้องซื้อไว้สำหรับยื่นทำวีซ่า

ข้อเสีย (เมื่อเทียบกับแบบรายเที่ยว)

  • เงินทดแทนจากแผน B ได้จำนวนน้อยกว่าแบบรายเที่ยว แต่เมื่อคำนวณว่าหากเดินทางหลายรอบใน 1 ปีแล้วก็ยังคงคุ้มค่ากว่าแบบรายเที่ยว

หากเดินทางน้อยกว่าปีละ 2 ครั้งจะไม่คุ้มค่า

 

 

เปรียบเทียบประกันการเดินทาง รายปี

ประกันการเดินทางรายเที่ยว

เหมาะกับใคร : ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศน้อยกว่า 2 ครั้งใน 1 ปี

ข้อดี (เมื่อเทียบกับแบบรายปี)

  • จ่ายน้อยกว่าเฉพาะในกรณีที่ เดินทางจำนวนวันน้อย เดินทางไปประเทศเดียว
  • เงินทดแทนจากแผน B ได้จำนวนมากกว่าแบบรายปี

ข้อเสีย (เมื่อเทียบกับแบบรายปี)

  • คุ้มครองแค่ 1 เที่ยวเดินทาง ประกันหมดอายุทันทีเมื่อจบทริป หรือเดินทางกลับถึงเมืองไทย
  • เมื่อจะต้องเดินทางอีกรอบก็จะต้องซื้อประกันใหม่ ถ้าต้องซื้อใหม่ 2 รอบขึ้นไปจะไม่คุ้มค่า คำนวณแล้วราคาจะพอๆกับราคาประกันแบบรายปี ดังนั้น ซื้อแบบรายปีคุ้มค่ากว่า
  • เกิดกรณีลืมซื้อประกันได้ง่ายมาก

เมื่อผลวิเคราะห์ข้อดี และข้อเสียออกมาแล้วพบว่าข้อดีของแผนประกันท่องเที่ยวแบบรายปีมีมากกว่า จากนั้นก็ต้องนำมาชั่งน้ำหนักดูว่าประกันการเดินทางแบบไหนที่เหมาะกับคุณมากที่สุดในตอนนี้

สถานการณ์จำลอง : คุณวางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงหยุดยาวแค่ครั้งเดียวในปีนี้ ดังนั้น จึงคิดว่าถ้าเลือกซื้อประกันแบบรายเที่ยวอาจจะคุ้มค่ามากกว่า

แต่ในระหว่างปีอาจมีเหตุการณ์แทรกแซงขึ้น เช่น

  • คุณเป็นพนักงานบริษัทใหญ่ ดังนั้น อาจต้องบินไปพบลูกค้าที่ต่างประเทศอย่างน้อย 2 ครั้งใน 1 ปี ดังนั้น ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ประกันการเดินทางแบบรายปีคุ้มค่ามากกว่า
  • คุณเป็นคนที่ชอบเดินทางจึงมักชอบซื้อแพ็คเกจท่องเที่ยวในราคาถูกเสมอ ทำให้อาจได้ไปท่องเที่ยวมากกว่า 1 ครั้ง
  • คุณมีญาติสนิทอยู่ที่ต่างประเทศ อาจต้องมีการบินไปเยี่ยมเยือน พบปะบ้าง

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าถ้าเลือกซื้อประกันการเดินทางแบบรายปีเอาไว้ ก็ยังคุ้มค่ากว่าซื้อแบบรายเที่ยว

ส่วนต่อมาที่จะเป็นสิ่งที่ช่วยตัดสินใจ คือ บริการ โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่างๆ


โปรโมชั่น ประกันการเดินทาง

บริการ โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่างๆ – ในเมื่อเราทำประกันเพื่อรับมือกับปัญหาต่างๆ อยู่แล้ว
แต่การที่เราได้รับการบริการที่ดีมีมาตรฐาน เช่น การบริการตลอด 24 ชม. สถานพยาบาลในเครือข่าย การคืนเงิน เป็นต้น หรือ แม้กระทั่งสิทธิ์พิเศษไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นหรือของสมนาคุณจากทางบริษัทประกันนั้นๆ ด้วย ก็คงคุ้มค่ายิ่งขึ้นกับการเลือกทำประกัน โดยส่วนมากการที่เราจะได้รับสิทธิ์พิเศษดีๆ นั้นมักจะมาจากเบี้ยประกันที่มากหรือสะสมมาเรื่อยๆ ซึ่งทำให้แผนประกันการเดินทางแบบรายปีนั้นมักจะมีอะไรดีๆแถมมาให้อีกมากมาย

ตัวอย่างโปรโมชั่นหรือสิทธิพิเศษที่ได้รับจากการทำประกันกับ Cigna 18 – 30 กันยายน 2561

  • ซื้อค่าเบี้ยทุกๆ 400 บาท ได้รับ Starbucks e-coupon หรือ Central Voucher 100 บาท เมื่อครบ 2,000 รับ Power Bank 10,000 mAh (ประกันการเดินทางแบบรายเที่ยว)
  • ซื้อแผน 1 และ 2 ได้รับ รับบัตรเงินสดเติมน้ำมัน PTT มูลค่า 500 และ 1,000 ตามลำดับ
    ซื้อแผน 3 รับสิทธิบริการลิมูซีนรับ-ส่งสนามบิน (ประกันการเดินทางแบบรายปี)


เปรียบเทียบประกันการเดินทาง รายปี กับ รายเที่ยว

สรุปการเลือกประกันการเดินทางแบบรายปี กับ แบบรายเที่ยว ให้คุ้มค่า

ประกันการเดินทางรายปี เหมาะสำหรับคนที่มีธุรกิจ ต้องเดินทางอยู่เป็นประจำ หรือ พนักงานบริษัทที่เที่ยวบ่อยแต่ลาไม่ยาวมาก เดินทางครั้งหนึ่งประมาณ 5 – 7 วัน ต่อ ทริป ทั้งใน เอเชีย ยุโรป หรือ อเมริกา และจะต้องไม่เกิน 30 วัน / 1 ทริปการเดินทาง เพราะเบี้ยประกันรายเที่ยวประมาณ 5 – 7 วัน จะตกอยู่ราว ๆ 600 – 1,000 บาท ซึ่งถ้ามีทริปอื่น ๆ อีก 1-2 ทริป ก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะซื้อประกันการเดินทางแบบรายปีแล้ว

ประกันการเดินทางแบบรายเที่ยว เหมาะสำหรับการเดินทางไม่เกิน 2 เที่ยวใน 1 ปี เช่น การเยี่ยมญาติ การจัดทริปไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ คณะทัวร์ หรือการตะลอนเที่ยวแบบรวดเดียว เพราะว่าเมื่อเริ่มเดินทางแล้วหากกลับมาที่ประเทศไทยเท่ากับว่าสิ้นสุดการคุ้มครอง สำหรับสายประหยัดไม่ค่อยได้เดินทางแบบนี้คุ้มแน่นอน

ตัวอย่าง ข้างต้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเลือกประกันการเดินทาง สุดท้าย ไม่ว่าประกันการเดินทาง จะเป็นแบบประกันการเดินทางรายปี หรือรายเที่ยวนั้น ก็ต้องเลือกตามความเหมาะสมอื่น ๆ ด้วย เช่น วันและเวลาการเดินทาง ตลอดไปจนถึง ประเทศ , บุคคลที่เดินทาง , โรคติดต่อ รวมไปถึงความเสี่ยงอื่น ๆ ตลอดจนกระทั่งสายการบิน ภัยพิบัติ อื่น ๆ อีกด้วย การเลือกซื้อแผนประกันการเดินทาง จึงควรเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับการเดินทาง เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นมาเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เป็นเบี้ยประกันจะกลายเป็นเงินที่คอยช่วยเหลือเราไม่ใช่น้อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยต่าง ๆ ซึ่งมูลค่าที่ได้รับการชดเชยนั้นมีมูลค่ามากกว่าเบี้ยประกันที่เราจ่ายไปอย่างแน่นอน