กฏของสัมภาระที่นำติดตัวขึ้นเครื่อง มีอะไรบ้างนะ?

กฏของสัมภาระที่นำติดตัวขึ้นเครื่อง

กฎของการขึ้นเครื่องบินมีมากมายจนบางทีเราก็ลืมนึกไปว่าอะไรที่เป็นกฎบ้างเพราะมีเยอะมากจริงๆครับ และยิ่งผ่านมานานก็ยิ่งมีกฎเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อะไรขึ้นเครื่องได้ อะไรขึ้นเครื่องไม่ได้ ส่วนผู้โดยสารก็มีหน้าที่ในการอัปเดตข้อมูลอยู่เสมอครับ ถ้าถามว่ากฎของการขึ้นเครื่องและการนำสัมภาระขึ้นเครื่องมีระบุแบบตายตัวหรือไม่ คำตอบคือไม่มีหรอกครับ กฎเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอส่วนใหญ่จะเป็นการเพิ่มกฎซะมากกว่า เนื่องจาก สิ่งของที่มีขายตามท้องตลาดมีผลิตใหม่ออกมาตลอดๆสายการบินหรือด่านตรวจสัมภาระนั้นทำได้แค่เพียงคัดกรองว่าสิ่งของใดที่ดูกระทบกับความปลอดภัยของผู้โดยสารขณะทำการบิน สิ่งของนั้นก็จะถูกแบนทันทีครับ แม้แต่ของใช้ยอดฮิตในครัวเรือน อย่าง ไม้ช็อตแมลง กรรไกรตัดเล็บ ไฟแช็ค ยังไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้เลยครับ แต่ของบางชนิดแม้จะไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องแต่สายการบินก็ยังมีการอลุ่มอล่วยให้สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องไปได้ครับ

 

เคยมีการตั้งกฎแต่ถูกยกเลิกแล้วหรือไม่?

เคยมีครับ ยกตัวอย่าง เมื่อปี 2017 เคยมีกฎที่ถูกตั้งขึ้นจากองค์กรความมั่นคงของประเทศสหรัฐอเมริกาว่าห้ามผู้ที่เดินทางกับสายการบินตะวันออกกลาง อันได้แก่ Emirates, Etihad, Turkish Airline, Egypt Air, Saudi Arabian Airlines, Kuwait Airways, Royal Jordanian และ Royal Air Moroc เพื่อไปยังปลายทางประเทศสหรัฐอเมริกานำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วย กฎข้อนี้ถือว่าส่งผลกระทบกับผู้เดินทางค่อนข้างมากครับ เพราะผู้เดินทางที่ต้องพกกล้องหรืออะไรใดๆไปต้องโหลดใต้ท้องเครื่องทั้งหมด โดยกฎข้อนี้ถูกตั้งขึ้นเพื่อป้องกันเหตุการณ์ก่อการร้ายที่อาจเกิดขึ้นและก่ออันตรายต่อการบินและประเทศได้ แต่ในขณะนี้กฎนี้ถูกยกเลิกแล้วครับ

 

กฎที่พึ่งถูกประกาศออกมาอีกครั้งเมื่อไม่นานนี้ว่าเรื่องการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออกนอกประเทศต้องทำตามทุกคนหรือไม่?

ไม่ต้องทุกคนครับ แม้ว่ากฎที่ออกมาจะมีรายละเอียดว่าการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และของใช้ส่วนตัว เช่น นาฬิกา รวมกันมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท ออกนอกประเทศจำเป็นต้องสำแดงที่กรมการกงสุลก่อนเดินทางออกนอกประเทศทุกครั้ง แต่ลองคิดดูครับว่าถ้าก่อนออกนอกประเทศต้องสำแดงสิ่งของกรมการกงสุลที่สนามบินกันทุกๆคนนี่แย่เลยครับต่อคิวยาวไปยันทางด่วนแน่นอน เพราะ ส่วนมากโทรศัพท์เครื่องเดียวก็ 3-4 หมื่นขึ้นไปก็มีครับ กรมการกงสุลจึงมีการให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่ากรณีผู้ที่ไม่ได้นำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดเดียวกันจำนวนมากกว่า 1 ชิ้นขึ้นไปออกนอกประเทศก็ไม่จำเป็นต้องแจ้งก็ได้ครับ แต่ถ้าคุณนำโน๊ตบุ๊ตไป 2 เครื่อง แท็ปเล็ต 3 เครื่อง กล้อง 4 ตัว อะไรประมาณนี้ก็จำเป็นจะต้องสำแดงสิ่งของเหล่านี้ต่อกรมการกงสุลก่อนเดินทางออกนอกประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนภาษีเมื่อเดินทางกลับเข้าประเทศครับ


กฎของสัมภาระที่นำติดตัวขึ้นเครื่องมีอะไรบ้าง?

            ก่อนจะไปผ่านเครื่องแสกนที่สนามบิน เราก็มาแสกนตัวเราเองกันก่อนดีกว่า จะเดินทางแล้วก็คงไม่อยากโดนยึดของ โดนโยนทิ้ง หรือโดนซักถามอะไรให้เสียเวลาใช่ไหมครับ ดังนั้นตัวเราเองนี่แหละจะต้องเตรียมตัวไปให้พร้อมก่อนเดินทางเพื่อป้องกันไว้ก่อน มาเริ่มกันเลยครับ

  1. Power Bank

    ถ้าโทรศัพท์นับเป็นอวัยวะที่ 33 งั้นพี่ช้างให้ Power Bank เป็นอวัยวะที่ 34 เลยครับ แบตหมดแล้วอยากดิ้นตายมาก สำหรับ Power Bank ที่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ต้องมีความจุไม่เกิน 32,000 mAh/เครื่อง และต้องมีตัวอักษรระบุความจุอยู่บนตัวเครื่องชัดเจน และห้ามโหลดใต้เครื่องเป็นอันขาดครับ

  • Power Bank ไม่เกิน 20,000 mAh/เครื่อง พกได้ไม่เกิน 10 เครื่องต่อคน
  • Power Bank ไม่เกิน 32,000 mAh/เครื่อง พกได้ไม่เกิน 2 เครื่องต่อคน
  • Power Bank เกิน 32,000 mAh/เครื่อง ขึ้นไป ห้ามนำขึ้นเครื่องเด็ดขาด

  1. กระเป๋าที่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่อง หรือ Carry on bag

    จะต้องเช็คกับสายการบินที่เราเดินทางว่ามีข้อกำหนดขนาดของกระเป๋าและลักษณะกระเป๋า รวมทั้งน้ำหนักกระเป๋าอย่างไรบ้าง แต่ขนาดโดยปกติของกระเป๋าที่นำติดตัวขึ้นเครื่องจะต้องมีขนาด 56cm x 36cm x 23cm รวมล้อลาก และที่จับกระเป๋า ผู้โดยสาร 1 คน สามารถถือกระเป๋าลากตามขนาดที่กำหนดได้ 1 ใบ และกระเป๋าสะพายชาย/หญิง 1 ใบ ทั้ง 2 ใบรวมกันได้น้ำหนักต้องไม่เกิน 7-10 กิโลกรัม (บางสายการบินอาจต่างกันครับกรุณาเช็คข้อมูลก่อนเดินทาง)

     3. ของเหลวที่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่อง
คุณอาจเคยได้ยินว่าเราไม่สามารถนำของเหลวติดตัวขึ้นเครื่องได้ แต่ความจริงแล้วทำได้ครับ
มีข้อกำหนดดังนี้

  • ของเหลวและสเปรย์หรือสิ่งของลักษณะที่เหนียวข้นไม่ใช่ก้อนแข็งที่จะนำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีปริมาณไม่เกิน 100 มิลลิลิตร/ขวด (ต้องมีปริมาณระบุบนขวดชัดเจน) ได้จำนวนไม่เกิน 10 ขวด รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 1 ลิตร หรือ 1,000 มิลลิลิตร และต้องใส่อยู่ในถุงซิปล็อคปิดสนิทแบบใสขนาดไม่เกิน 20cm x 20cm ด้วยครับ

คำถามที่มักเจอบ่อยคือ ถ้าข้างขวดระบุว่าเกิน 100 มิลลิลิตรล่ะ เช่น ขวดสบู่ 250 มิลลิลิตร พกไปแค่ขวดเดียวก็ไม่ถึง 1 ลิตร หรือ 1,000 มิลลิลิตร เลย และเหลืออยู่แค่ครึ่งขวดเอง เอาขึ้นเครื่องได้ไหม? คำตอบคือ ไม่ได้ครับ โบกมือบ๊ายบายได้เลย ถ้าไม่อยากเสี่ยงพี่ช้างแนะนำให้ซื้อขวดแบ่งผลิตภัณฑ์แบบใสไว้เลย แต่ต้องมีขนาดระบุข้างขวดว่า 100 มิลลิลิตรด้วยนะครับ ตามร้านทั่วไปในห้างมีขายครับ เช่น Muji, Miniso และ Daiso เอาที่สะดวกเลยครับ

  • ของเหลวที่ซื้อจากร้านค้าปลอดภาษีในสนามบิน เมื่อซื้อแล้วทางร้านค้าจะมีการปิดผนึกถุงไว้อย่างแน่นหนา ดังนั้นเมื่อซื้อมาแล้วห้ามแกะซองหรือฉีกซองก่อนที่จะเดินทางไปถึงประเทศปลายทางครับ
  • ยาน้ำ ต้องมีฉลากกำกับของยาชัดเจน หรือยารักษาโรคที่ต้องใช้หลอดฉีดยาแนะนำว่าให้เตรียมใบรับรองแพทย์ไปครับว่าเราเป็นโรคนี้ และจำเป็นต้องใช้ยาตัวนี้จริง ไม่ได้มีเจตนาใช้เพื่อการอื่น
  • กรณีคุณแม่ลูกอ่อนจะได้รับการยกเว้นเรื่องจำกัดปริมาณของเหลวที่ต้องนำขึ้นเครื่องครับ เนื่องจากเด็กเล็กต้องทานเป็นเวลาและไม่สามารถกำหนดปริมาณการทานในจำนวนที่แน่นอนได้
  1. สินค้าก็อปแบรนด์เนม

    เก็บไว้บ้านดีกว่า การถือของแบรนด์เนมเดินทางไปต่างประเทศแม้ว่าจะดูโก้เก๋ดีแต่ถึงกระนั้นการโดนขโมยหรือโดนปล้นนี่เรื่องใหญ่เลยครับ แถมใครที่ชอบใช้งาน Mirror แล้วนั้น พี่ช้างว่าเก็บไว้ที่บ้านดีกว่าครับ เพราะหากเราถือของก็อปเข้าโซนยุโรปเมื่อไหร่งานนี้ล่ะเรื่องใหญ่โดนจับแน่นอน

  2. ห้ามเนื้อสดและของแช่แข็ง

    คนอื่นๆอาจจะมองว่าใครจะหิ้วของสดขึ้นเครื่องกันล่ะ แต่พี่ช้างจะบอกว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้! จริงๆนะครับพี่ถ้าเจอขึ้นเครื่องแล้วอาจโดนจับโยนทิ้งเลย คนแสกนกระเป๋าคงจะงงว่าเอาไปทำอะไร อีกอย่างการลักลอบนำเข้าหรือส่งออกเนื้อสัตว์โดยไม่มีใบอนุญาตถือเป็นเรื่องผิดอยู่แล้วครับ

 

  1. ห้ามอาหารกลิ่นแรง

    จำพวก อาหารแห้ง เช่น ปลาหมึก น้ำพริก น้ำปลา หรือผลไม้ เช่น ทุเรียน อะไรต่างๆนาๆ ห้ามหิ้วขึ้นเครื่องเด็ดขาด! แม้ว่าบางสายการบินอาจจะไม่มีข้อห้ามไว้ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามต้องเห็นใจเพื่อนร่วมทางด้วยกันครับ เพราะเราต้องใช้อากาศหายใจร่วมกันเป็นชั่วโมง คนที่ทนกลิ่นไม่ไหว จะทรมานขนาดไหนคิดดู

  2. ห้ามวัตถุนำเชื้ออันตราย ยาเสพติด สิ่งของที่มีลักษณะเป็นอาวุธ

    ไม่ว่าจะเป็นอาวุธจริง หรือของเล่น หรือแม้แต่ลักษณะทางกายภาพจะดูไม่อันตรายมาก แต่หากสายการบินตรวจสอบว่าอาจก่อให้เกิดอันตรายได้แม้เพียงเล็กน้อย ระหว่างการบิน ยังไงก็จำใจต้องทิ้งไปครับ สิ่งของที่พี่ช้างกล่าวมา ก็คือ ปืนของเล่น ไม้ช็อตยุงไฟฟ้า เครื่องช็อตไฟฟ้า วัตถุระเบิด ก๊าซไวไฟ ของเหลวไวไฟ สารทำละลาย ไนโตรเจนเหลว สารพิษ ยาฆ่าแมลง สารหนู ไซยาไนด์ วัตถุนำเชื้อโรคทางชีวภาพ สัตว์ติดเชื้อ ผลิตภัณฑ์กัดกร่อน น้ำกรด ด่าง สเปรย์อัดก๊าซ บุหรี่ไฟฟ้า สนับมือ ปืนไฟแช็ค มีดสั้น มีดยาว วัตถุมีคมทุกชนิด กระบอง กระบี่ ดาบ ทวน ไม้เบสบอล ไม้หน้าสาม สาก เครื่องมือช่าง ไขควง เบ็ดตกปลา ตะขอของเบ็ดตกปลา กรรไกร เข็มเย็บผ้า เข็มฉีดยา (กรณีต้องใช้เข็มฉีดยาเพื่อการรักษาต้องมีใบรับรองแพทย์) ฯลฯ อุปกรณ์ที่เป็นอันตรายเหล่านี้ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้งานจริงๆพี่ช้างแนะนำเก็บไว้บ้าน หรือถ้าเป็นอุปกรณ์เครื่องมือที่ต้องใช้งานจริงๆแนะนำให้โหลดใต้เครื่องเลยครับ แต่ต้องไม่เป็นสารพิษหรืออาวุธอันตรายนะครับ

  3. ห้ามสิ่งของใช้งานส่วนตัวบางชนิด

    ไม่ว่าจะเป็น กรรไกรตัดเล็บ ตะไบเล็บ แหนบ ที่ดัดขนตา คีมหนีบสิว ที่งัดแงะตกแต่งเล็บที่มีคม หรือแม้แต่มีลักษณะแหลมทู่ มีดโดนหนวด ฯลฯ สิ่งของเหล่านี้ที่ดูเป็นอันตรายห้ามนำติดตัวขึ้นเครื่องให้โหลดใต้ท้องเครื่อง สำหรับไฟแช็คบางครั้งที่เมืองไทยให้ผ่านได้ แต่ไปถึงต่างประเทศขาออกมาโดนโยนทิ้งครับ! อยากจะบอกเจ้าหน้าที่มากว่า “ซิปโป้ที่เธอทิ้งนั้น คือเงินฉันทั้งเดือน..” บางคนสงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น อันนี้พี่ช้างว่าน่าจะเป็นที่มาตรการความปลอดภัยแต่ละสนามบินอาจแตกต่างกันครับ

  4. ผู้หญิงตั้งครรภ์ท้องแก่ใกล้คลอด

    เมื่อเครื่องขึ้นแล้วความกดอากาศภายในเครื่องระหว่างบินจะมีความไม่คงที่ซึ่งอาจส่งผลกับการไหลเวียนโลหิตของแม่และเด็กในครรภ์ได้ รวมทั้งการสั่นสะเทือน อุบัติเหตุที่เกิดจากการตกหลุมอากาศ ล้วนแล้วแต่ไม่ส่งผลดีต่อเด็กในครรภ์เลยครับ

  • คุณแม่ใกล้คลอดพี่ช้างแนะนำให้อยู่บ้านไปก่อนจนกว่าจะคลอดดีกว่านะครับ
  • การตั้งครรภ์ระยะแรก หรือท้องอ่อนต้องมีใบรับรองจากแพทย์ในการอนุญาตให้คุณแม่ท้องอ่อนขึ้นเครื่องได้ครับ
  1. ชิ้นส่วนของสัตว์ที่ใช้เป็นเครื่องแต่งกาย

    หากเป็นชิ้นส่วนของสัตว์แท้ๆมาเป็น เท้า หัว หู หรือหนัง แนะนำอย่าใส่ขึ้นเครื่องเลยครับ โหลดใต้ท้องเครื่องหรือไม่ต้องเอาไปด้วยจะดีกว่า แม้ว่าจะได้มาแบบถูกกฎหมาย หรือมาจากอุตสาหกรรมที่มีใบอนุญาต แต่เพื่อป้องกันการโดนซักถามถึงที่มาของชิ้นส่วนเหล่านั้นอาจทำให้เราเสียเวลาไปมากเลยนะครับ

 

นี่แหละครับสิ่งของทั้งหมดที่พี่ช้างรวบรวมมาฝากเพื่อนๆในวันนี้ แม้ว่ากฎมันออกจะเยอะแยะไปซักหน่อย แต่ถึงอย่างไรก็ต้องทำตามครับ เพราะ กฎก็คือกฎต้องเรียกว่าแบบนี้เลยครับ ขนาดเราใช้ชีวิตในสังคมก็ยังต้องเคารพกฎหมายและกฎของการอยู่ร่วมกันเลยครับ การเดินทางโดยสารอากาศยานก็มีกฎที่ประชาชนที่ใช้บริการอย่างเราก็ต้องอัปเดตและต้องทำตามเช่นกัน เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินทางกันทุกครั้งนะครับ


บทความที่เกี่ยวข้อง

สิ่งของต้องห้าม และสิ่งของต้องกำกัด >> https://www.changtrixget.com/tiptrick/prohibited-restricted-customs/

วิธีดูพาสปอร์ตหมดอายุ และวิธีการนับ >> https://www.changtrixget.com/tiptrick/how-to-passport-expired/