ของต้องห้าม และของต้องกำกัด คืออะไร?

ของต้องห้าม และของต้องกำกัด คืออะไร?

เดินทางเข้าออกประเทศกันบ่อยๆ ขนของกลับไทยมาก็เยอะ เคยทราบกันไหมว่ามีสินค้าอะไรบ้างที่ไม่สามารถนำเข้าและนำออกนอกประเทศได้ หรือที่เรียกว่าสินค้าต้องห้าม รวมทั้งมีสินค้าใดบ้างที่สามารถนำเข้า นำออกได้เพียงแต่ต้องมีหนังสืออนุญาตจากองค์กรที่ถูกกำหนดตามกฎหมายเท่านั้น หรือที่เรียกว่าสิ่งของต้องกำกัด วันนี้พี่ช้างจะพาไปทำความรู้จักกับสิ่งของต้องห้าม และสิ่งของต้องกำกัด เพื่อที่จะให้ทุกคนได้ระมัดระวังการนำเข้าสินค้า และการนำสินค้าออกนอกประเทศกันมากขึ้น ถ้าทำอย่างถูกต้องจะได้เข้า-ออกประเทศกันแบบสบายใจมากขึ้นนะครับ

 

ของต้องห้ามคืออะไร มีสินค้าชนิดใดบ้าง?

            ของต้องห้าม (Prohibited Items) คือ ของที่ถูกกำหนดว่าห้ามนำเข้าหรือนำออกนอกราชอาณาจักรแม้กระทั่งห้ามส่งผ่านโดยเด็ดขาด ตามข้อกำหนดกฎหมาย และหากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามมาตราของพระราชบัญญัติศุลกากรครับ สินค้าที่ถูกกำหนดว่าเป็นของต้องห้ามตามพระราชบัญญัติศุลกากร อันได้แก่

  1. วัตถุลามก ในที่นี้หมายความรวมสื่อทุกชนิดเลยครับ ทั้งหนังสือ ภาพเขียน นิตยสาร สิ่งพิมพ์ต่างๆ สัญลักษณ์ รูปถ่าย ภาพยนตร์ รวมทั้งสื่อลามกอื่นๆอย่างพวก Sex Toy ต่างๆด้วยครับ
    ข้อนี้อาจจะดูขัดใจใครหลายคนซักหน่อยแม้เราจะทราบกันดีว่าจริงๆแล้วของพวกนี้ไม่น่าเสียหายหรือผิดกฎหมายอะไร เพราะเรื่องทางเพศก็เป็นปกติของมนุษย์อย่างเราอยู่แล้วแถมต่างประเทศยังมองว่าการเปิดกว้างในเรื่องนี้ยังสามารถลดอาชญากรรมเรื่องการข่มขืนลงไปได้มากเลยทีเดียว พี่ช้างก็ยังหวังว่าถ้าบ้านเราเปิดกว้างในเรื่องนี้ซักเล็กน้อยแม้จะขัดกับศีลธรรมไปมากแต่อย่างน้อยก็อาจสามารถช่วยลดคดีอาชญากรรม และการทารุณกรรมเรื่องเพศกับผู้หญิงไปได้บ้างครับ พี่ช้างสงสารผู้หญิงสมัยนี้เหลือเกินไม่ว่าจะทำอะไร แต่งตัวอย่างไรก็กลายเป็นล่อแหลมไปหมด กลายเป็นผู้หญิงที่โดนกระทำเป็นคนผิดไปซะอย่างนั้น
  2. สินค้าที่มีลวดลายรูปธงชาติ ไม่ว่าจะอยู่บนสิ่งของใดก็ตามห้ามเลยครับ
  3. ยาเสพติดให้โทษทุกชนิด เรื่องนี้แน่นอนว่ายังไงก็ผิดกฎหมายครับ พี่ช้างขอเลี่ยงประเภทของมันแล้วกันนะครับ
  4. สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าปลอมแปลง หรือลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้า ที่มาจากการละเมิดกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา อันได้แก่ สิ่งของที่ถูกทำซ้ำ หรือดัดแปลงมาจากสินค้าที่มีลิขสิทธิ์อันเป็นของผู้อื่นครับ อาธิเช่น โปรแกรม คอมพิวเตอร์ หนังสือ เทปเพลง ซีดีเพลง รวมทั้งพวกกระเป๋าก็อปแบรนด์เนม เป็นต้น
  5. เงินตรา พันธบัตร ตราแผ่นดิน ตราราชการ ในข้อนี้ให้น้ำหนักไปทางเอกสารที่ถูกปลอมแปลงขึ้นมาครับ ทั้งธนบัตร เหรียญกษาปณ์ที่ถูกปรับแต่งหรือลดน้ำหนักลงโดยมีเจตนาทุจริต เอกสารราชการ ตราแผ่นดินพระปรมาภิไธย รวมทั้งตราราชการต่างๆที่มีการปลอมแปลงขึ้นมา

 

 

ของต้องกำกัดคืออะไร มีสินค้าชนิดใดบ้าง?

            ของต้องกำกัด (Restricted Items) คือ ของที่สามารถนำเข้า ส่งออก หรือส่งผ่านระหว่างประเทศได้แต่อยู่ในความควบคุมของกฎหมาย และต้องได้รับอนุญาตและปฎิบัติตามข้อกฎหมายกำหนดอย่างครบถ้วน เช่น การขอใบอนุญาต หรือการกระทำอื่นๆที่กฎหมายระบุว่าต้องกระทำ มิฉะนั้นจะถือว่าทำผิดตามมาตราพระราชบัญญัติศุลกากรและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายครับ สิ่งของที่ถูกกำหนดว่าเป็นของต้องกำกัดตามพระราชบัญญัติศุลกากร อันได้แก่

  1. พระพุทธรูป ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุ ต้องมีใบอนุญาตที่ออกโดยกรมศิลปากร
  2. อาวุธปืน กระสุนปืน วัตถุระเบิด และสิ่งเทียมอาวุธปืน ต้องมีใบอนุญาตที่ออกโดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
  3. พืชและส่วนต่างๆของพืช ต้องมีใบอนุญาตที่ออกโดยกรมวิชาการเกษตร
  4. สัตว์มีชีวิตและซากสัตว์ทุกชิ้นส่วน ต้องมีใบอนุญาตที่ออกโดยกรมปศุสัตว์
  5. อาหาร ยา เครื่องสำอาง และอาหารเสริม ต้องมีใบอนุญาตที่ออกโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
  6. ชิ้นส่วนยานพาหนะ ทุกชิ้นส่วน ทุกประเภทวัสดุ ต้องมีใบอนุญาตที่ออกโดยกระทรวงอุตสาหกรรม
  7. บุหรี่ ยาสูบ จำนวน 200 มวนขึ้นไป เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 1 ลิตรขึ้นไป ต้องมีใบอนุญาตที่ออกโดยกรมสรรพสามิต
  8. เครื่องมือวิทยุสื่อสาร อุปกรณ์โทรคมนาคม ต้องมีใบอนุญาตที่ออกโดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

 

สรุปแล้วของต้องห้ามและของต้องกำกัดต่างกันอย่างไร?

ไม่ยากครับ ขึ้นชื่อว่าของต้องห้ามก็คือห้ามนำเข้า นำออก หรือส่งผ่านเด็ดขาดไม่ว่ากรณีใดๆ แต่ของต้องกำกัดคือนำเข้า นำออก หรือส่งผ่านได้ซึ่งถูกควบคุมโดยกฎหมาย และต้องมีใบอนุญาตตามมาตราพระราชบัญญัติศุลกากรกำหนดอย่างที่พี่ช้างบอกไว้ในหัวข้อที่แล้วครับ

 

หากเราพกสิ่งของต้องห้ามหรือสิ่งของต้องกำกัดโดยไม่มีใบอนุญาตจะเกิดอะไรขึ้น?

            พี่ช้างแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงไปเลยดีกว่าครับ เพราะการทำงานของกรมศุลกากรจะใช้ทั้งการแสกนและการสุ่มตรวจ ซึ่งบางคนอาจจะบอกว่าก็เคยเอาเข้ามาได้ไม่เห็นโดนจับเลย ใช่ครับนั่นอยู่ในกรณีที่คุณไม่โดนสุ่มตรวจแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่กรมศุลกากรตรวจเจอ คุณจะโดนข้อหาหนัก ทั้งปรับจนอ่วม หรืออาจโดนจำคุกได้เลยนะครับ

 

จบแล้วครับสำหรับของต้องห้ามและของต้องกำกัดที่พี่ช้างนำมาฝาก ใครว่าเรื่องนี้ค่อนข้างไกลตัวไม่ต้องรู้ก็ได้ จริงๆแล้วเรื่องนี้เป็นกฎหมายที่ประชาชนจำเป็นต้องรู้ครับ เพราะเมื่อไหร่ที่เราทำผิดขึ้นมา คำว่าไม่รู้ ไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างได้เลยครับ พี่ช้างก็อยากจะฝากเรื่องนี้ให้เพื่อนๆนักเดินทางคำนึงถึงความสำคัญกันด้วยนะคร้าบ คราวหน้าพี่ช้างจะมีเรื่องใกล้ตัวกว่านี้มาฝากกันครับ ทั้งเรื่อง “สิ่งของที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน มีอะไรกันบ้าง?” และเรื่อง “สิ่งของต้องสำแดงสำหรับนักเดินทาง” ติดตามชมกันด้วยน้า